บทความสมุนไพรสมุนไพรสำหรับใช้รากปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้เปลือกไม้ปรุงยา

มะฝ่อ


ชื่อสมุนไพร : มะฝ่อ
ชื่อเรียกอื่นๆ : มะปอบ (ภาคเหนือ), ม่อแน่ะ, เส่โทคลึ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) และ หม่าที (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Trewia nudiflora Linn.
ชื่อสามัญ :
วงศ์ : EUPHORBIACEAE
MFO4
มะฝ่อเป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด มีเขตการกระจายพันธุ์ในอินเดียถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบขึ้นในป่าเบญจพรรณ ป่า ดิบ ป่าชุ่มชื้นหรือริมห้วย ที่ระดับความสูงประมาณ 50-600 เมตร  ลำต้นมักออกดอกในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมของทุกปี ประโยชน์ของมะฝ่อ คือ ผลมีรสหวาน สามารถใช้รับประทานได้ และเนื้อไม้สามารถใช้ทำหีบ ลังใส่ของ และใช้ทำก้านไม้ขีด โดยคนสมัยก่อนจะนำมาใช้ทำแอกไถนา เพราะมีน้ำหนักเบานั่นเอง ตำรายาพื้นบ้านล้านนาจะใช้เปลือกต้นมะฝ่อนำมาย่างกับไฟ ต้มกับน้ำดื่มต่างน้ำชา เป็นยารักษาอาการปวดบวมทั้งตัว ส่วนตำรายาไทยจะใช้เปลือกต้นและรากมะฝ่อ เข้ายาแก้พิษต่อผิวหนัง มีอาการคัน อีกทั้งรากสามารถนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาขับลม แก้อาการท้องอืด



 MFO1

ลักษณะสมุนไพร :
มะฝ่อเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบช่วงสั้น มีความสูงได้ประมาณ 20-30 เมตร กิ่งก้านใหญ่และแผ่กว้าง โคนต้นมีพูพอนเล็กๆ เปลือกต้นเป็นสีน้ำตาลอมเทา กิ่งก้านภาคตัดขวงเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ตามกิ่งอ่อน ท้องใบ และช่อมีขนรูปดาว ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่กว้าง รูปไข่แกมรี รูปหัวใจ หรือรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ปลายใบเรียวแหลม โคนใบมนแหลมหรือเว้าเป็นรูปหัวใจ ส่วนขอบใบเรียบคล้ายใบโพ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 8-13 เซนติเมตร และยาวประมาณ 10-22 เซนติเมตร ผิวใบด้านบนเกลี้ยง ยกเว้นที่เส้นใบมีขน ส่วนด้านล่างมีขนขึ้นปกคลุม เส้นใบแตกจากฐานใบ 3 เส้น ใบอ่อนมีชนรูปดาวหนาแน่น ใบแก่บางเป็นสีเขียวออกเหลือง กดอกตามซอกใบ ดอกย่อยมีจำนวนมาก ดอกเป็นแบบแยกเพศและอยู่ต่างต้นกัน ดอกเป็นสีครีมอมเขียว ขนาดเล็ก ไม่มีกลีบดอก ดอกเพศผู้จะออกช่อตามซอกใบ มีเกสรเพศผู้จำนวนมาก ยาวประมาณ 15-22 เซนติเมตร ดอกจะทยอยบานจากโคนไปสู่ปลายช่อ กลีบรองดอกมีประมาณ 3-4 กลีบ ขนาดประมาณ 3.5 มิลลิเมตร ส่วนดอกเพศเมียออกเป็นดอกเดี่ยวหรือออกเป็นช่อๆ ก้านดอกยาว มีกลีบรองดอกประมาณ 3-5 กลีบ หลุดร่วงได้ง่าย รังไข่มี 2-4 ช่อง ผลเป็นผลสด ลักษณะเป็นรูปทรงกลมหรือกลมแป้น ผลแข็ง มีขน และฉ่ำน้ำ ขนาดประมาณ 2-4 เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดเดี่ยว
MFO2
ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ราก และ เปลือกต้น
สรรพคุณทางยา :

  1. ราก ยาขับลม แก้อาการท้องอืด ยาแก้พิษต่อผิวหนัง มีอาการคัน ยาทาถูนวดแก้อาการปวดตามข้อ
  2. เปลือกต้น ยาเย็น ช่วยบำรุงร่างกาย ยาขับเสมหะ ยาแก้อาการบวมน้ำ ยาแก้ท่อน้ำดีอักเสบ ยาแก้พิษต่อผิวหนัง มีอาการคัน ยารักษาอาการปวดบวมทั้งตัว

 MFO3

วิธีการใช้ :                                     

  1. ยาขับลม แก้อาการท้องอืด ยาแก้พิษต่อผิวหนัง มีอาการคัน ยาทาถูนวดแก้อาการปวดตามข้อ นำรากมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน หรือ นำมาทาถูนวดแก้อาการปวดตามข้อหรือ นำมาทาแก้พิษต่อผิวหนัง มีอาการคัน
  2. ยาเย็น ช่วยบำรุงร่างกาย ยาขับเสมหะ ยาแก้อาการบวมน้ำ ยาแก้ท่อน้ำดีอักเสบ ยาแก้พิษต่อผิวหนัง มีอาการคัน ยารักษาอาการปวดบวมทั้งตัว นำเปลือกต้นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน หรือ นำมาทาแก้พิษต่อผิวหนัง มีอาการคัน ยารักษาอาการปวดบวมทั้งตัว

ถิ่นกำเนิด :
มะฝ่อเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 





.