บทความสมุนไพรสมุนไพรสำหรับใช้ดอกปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้รากปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้ลำต้นปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้ใบปรุงยา

ผักคราดหัวแหวน


ชื่อสมุนไพร : ผักคราดหัวแหวน
ชื่อเรียกอื่นๆ : ผักตุ้มหู (ใต้), ผักเผ็ด (เหนือ), ผักคราด และ หญ้าตุ้มหู
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Spilanthes acmella  (L.) Murray
ชื่อสามัญ : Para Cress และ Tooth-ache Plant
วงศ์ : ASTERACEAE
ผักคราดหัวแหวนเป็นพืชสมุนไพรที่ชอบขึ้นในที่ชื้น ตามที่รกร้างว่างเปล่า ข้างถนน หรือริมตลิ่ง ซึ่งทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือนิยมนำมารับประทานป็นอาหาร  จัดเป็นผักชนิดหนึ่งที่เป็นทั้งอาหารและยาสมุนไพร โดยทางด้านเภสัชวิทยาช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านยีสต์ ต้านไวรัส ยับยั้งการหดเกร็งของลำไส้ ลดความดันโลหิต เพิ่มฤทธิ์ของฮิสตามีนในการทำให้ลำไส้หดเกร็ง ปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกันฆ่ายุง ฆ่าลูกน้ำยุง ทำให้ชัก เป็นยาชาเฉพาะที่ แก้ปวด ลดความแรงและความถี่ของการบีบตัวของหัวใจห้องบน และในประเทศจีนนำคุณสมบัติมาสกัดเป็นยาชาได้มีประสิทธิภาพ



 KHW3

ลักษณะสมุนไพร :
ผักคราดหัวแหวนเป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก ลำต้นตั้งตรง แตกกิ่งก้านสาขา สูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร หรือทอดไปตามดินเล็กน้อย แต่ปลายชูขึ้น ลำต้นกลมอวบน้ำ มีสีเขียวม่วงแดงปนเข้ม ลำต้นอ่อน มีขนปกคลุมเล็กน้อย ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้าม รูปสามเหลี่ยม รูปไข่ หรือรูปใบหอกแกมรูปไข่ ขอบใบเรียบ หรือจักเป็นฟันเลื่อยแบบหยาบๆ ก้านใบยาว 1-2 เซนติเมตร ผิวใบสากมีขน ใบกว้าง 3-4 เซนติเมตร ยาว 3-6 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบ และปลายกิ่ง เป็นกระจุกสีเหลือง ลักษณะกลม รูปไข่ ปลายแหลมคล้ายหัวแหวน ยาว 8 มิลลิเมตร ดอกย่อยมี 2 วง วงนอกเป็นดอกเพศเมีย วงในเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ก้านดอกเรียวยาว 2.5-15 เซนติเมตร ยกตั้งทรงกลมเหมือนหัวแหวน ริ้วประดับมี 2 ชั้น รูปใบหอกแกมรูปไข่ ยาวราว 6 มิลลิเมตร เกลี้ยง ดอกวงนอกเป็นดอกตัวเมีย มี 1 วง กลีบดอกรูปรางน้ำ ดอกวงในเป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกรูปท่อ ปลายแยกเป็น 4-5 แฉก ผลเป็นผลแห้งรูปไข่ ยาวราว 3 มิลลิเมตร มีสัน 3 สัน ปลายเว้าเป็นแอ่งเล็กน้อย รยางค์มีหนาม 1-2 อัน

 KHW2

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ราก, ต้น, ทั้งต้น, ใบ และ ดอก
สรรพคุณทางยา :

  1. ราก แก้ปวดฟัน แก้ปวดศีรษะ แก้คัน เป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ
  2. ต้น แก้พิษตานซาง แก้ไข้ แก้เจ็บคอ ฝีในคอ แก้ต่อมน้ำลายอักเสบ แก้ริดสีดวง
  3. ทั้งต้น แก้ต่อมน้ำลายอักเสบ แก้ฝีในคอ แก้ไข้ คอตีบตัน แก้ซาง แก้คัน แก้ริดสีดวง แก้เริม แก้หลอดลมอักเสบเรื้อรัง แก้ไอ ระงับหอบ ไอหวัด ไอกรน หอบหืด แก้เหงือกและฟันปวด แก้ปวดบวมฟกช้ำ แก้ไขข้ออักเสบจากลมขึ้น แก้บิด ท้องเดิน แก้แผลบวม มีพิษ งูพิษกัด สุนัขกัด ตะมอย
  4. ใบ  แก้ปวดฟัน แก้ปวดศีรษะ รักษาแผล มีฤทธิ์เป็นยาชา
  5. ดอก  แก้ปวดฟัน แก้ปวดศีรษะ

 KHW1

วิธีการใช้ :

  1. แก้ปวดฟัน แก้ปวดศีรษะ แก้คัน เป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ นำรากมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  2. แก้พิษตานซาง แก้ไข้ แก้เจ็บคอ ฝีในคอ แก้ต่อมน้ำลายอักเสบ แก้ริดสีดวง นำต้นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน หรือ นำมาทาแก้คัน รักษาโรคผิวหนัง กลาก เกลื้อน
  3. แก้ต่อมน้ำลายอักเสบ แก้ฝีในคอ แก้ไข้ คอตีบตัน แก้ซาง แก้คัน แก้ริดสีดวง แก้เริม แก้หลอดลมอักเสบเรื้อรัง แก้ไอ ระงับหอบ ไอหวัด ไอกรน หอบหืด แก้เหงือกและฟันปวด แก้ปวดบวมฟกช้ำ แก้ไขข้ออักเสบจากลมขึ้น แก้บิด ท้องเดิน แก้แผลบวม มีพิษ งูพิษกัด สุนัขกัด ตะมอย นำทั้งต้นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน หรือ นำมาทารักษาแผล
  4. แก้ปวดฟัน แก้ปวดศีรษะ รักษาแผล มีฤทธิ์เป็นยาชา นำใบมาต้มกับน้ำอาบ หรือ นำมาทารักษาแผล
  5. แก้ปวดฟัน แก้ปวดศีรษะ นำดอกมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน

 KHW4

ถิ่นกำเนิด :
ผักคราดหัวแหวนเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศบราซิล เขตร้อน และอเมริกา

 





.