บทความสมุนไพรสมุนไพรสำหรับใช้รากปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้เปลือกไม้ปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้เมล็ดปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้ใบปรุงยา

ข่อย


ชื่อสมุนไพร : ข่อย
ชื่อเรียกอื่นๆ : กักไม้ฝอย (ภาคเหนือ), ซะโยเส่ (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน), ตองขะแหน่ (กะเหรี่ยงกาญจนบุรี), ส้มพอ (ร้อยเอ็ด) และ สะนาย (เขมร)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Streblus asper Lour.
ชื่อสามัญ : Siamese Rough Bush และ Tooth Brush Tree
วงศ์ : MORACEAE
KOY1
ข่อยเป็นไม้ประดับที่นิยมทำเป็นรั้วบ้านหรือเป็นไม้ประดับในสวนหย่อม นิยมขยายพันธุ์ด้วยการใช้รากปักชำ เพราะจะเจริญเติบโตได้เร็วกว่าการใช้กิ่งปักชำหรือการเพาะเมล็ด และถือว่าเป็นพืชสมุนไพรที่คนไทยสมัยโบราณนำกิ่งสดมาทุบแล้วใช้สีฟัน ข่อยมีสารสำคัญที่ช่วยฆ่าเชื้อในช่องปาก ช่วยดูแลทำให้ฟันทนแข็งแรง ช่องปากสะอาด ถือได้ว่าข่อยมีบทบาทสำคัญในการดูแลช่องปากของคนไทยมานานก่อนที่แปรงสีฟันจะเข้ามาแทนที่ สารสำคัญในต้นข่อยนั้นมีสารพวกลินาโลออล, โนนานาล, ดีคาลนาล, วิตามินซี และสารแทนนิน โดยสรรพคุณทางยาจะช่วยทำให้ฟันแข็งแรง ป้องกันฟันผุ ลดอาการปวดฟัน ช่วยแก้อาการท้องเสีย รากเปลือก นำมาเป็นยาบำรุงหัวใจ เมล็ดใช้ฆ่าเชื้อในช่องปาก นอกจากนี้ยังช่วยรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งใบข่อยมีสรรพคุณแก้มะเร็งได้ โดยมีรายงานระบุว่าหากเคี้ยวกินใบข่อยติดต่อกันเป็นเวลานานจะช่วยบำบัดอาการสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ให้อาการดีขึ้นได้



 KOY3

ลักษณะสมุนไพร :
ข่อยเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มีความสูงประมาณ 5-15 เมตร ลำต้นและกิ่งก้านค่อนข้างคดงอ มีปุ่มปนอยู่รอบๆต้นหรือเป็นพู เปลือกต้นมีสีเทาอ่อน เปลือกต้นบางขรุขระเล็กน้อยแตกเป็นแผ่นบางๆ และมียางสีขาวข้นเหนียวซึมออกมา แตกกิ่งก้านมีสาขามาก แตกกิ่งต่ำเป็นพุ่มทึบ ลักษณะเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับมีขนาดเล็ก แผ่นใบมีสีเขียวเนื้อใบค่อนข้างหนากรอบ ผิดใบสากคล้ายกระดาษทรายทั้งสองด้าน ลักษณะใบคล้ายรูปรีแกมรูปไข่หัวกลับ โคนใบสอบ ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก มีความกว้างประมาณ 2-3.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 4-7 เซนติเมตร ดอกออกเป็นช่อมีสีขาวเหลืองอ่อน โดยจะออกตามปลายกิ่งตามซอกใบ ดอกเดี่ยวแต่รวมกันเป็นกระจุก ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียจะอยู่ต่างดอกกัน ผลสดมีลักษณะกลมสีเชียว ผลคล้ายรูปไข่ มีขนาดประมาณ 0.5 เซนติเมตร เมล็ดมีขนาดโตเท่ากับเมล็ดพริกไทย มีเนื้อเยื่อหุ้ม ส่วนผลแก่จะมีสีเหลืองใสและมีรสหวาน และเป็นที่ชื่นชอบของพวกนกเป็นอย่างมาก

KOY4

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ราก, เปลือก, ใบ และ เมล็ด
สรรพคุณทางยา :

  1. ราก ช่วยรักษาแผล บำรุงหัวใจ
  2. เปลือก แก้ริดสีดวงจมูก แก้บิด แก้ท้องเสีย แก้ไข้ ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ช่วยขับลมในลำไส้ ช่วยแก้พยาธิผิวหนัง รักษาโรคผิวหนัง ทาริดสีดวง แก้อาการท้องร่วง ช่วยดับพิษ แก้รำมะนาด ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย
  3. ใบ ต้านโรคมะเร็ง ช่วยบรรเทาอาการปวดของมดลูกในระหว่างมีประจำเดือน ยาระบายอ่อนๆ
  4. เมล็ด ยาอายุวัฒนะ ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยฆ่าเชื้อในช่องปากและทางเดินอาหาร ช่วยขับลมในลำไส้

 KOY2

วิธีการใช้ :

  1. ช่วยรักษาแผล บำรุงหัวใจ  นำรากมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  2. แก้บิด แก้ท้องเสีย แก้ไข้ ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ช่วยขับลมในลำไส้ ช่วยแก้พยาธิผิวหนัง รักษาโรคผิวหนัง ทาริดสีดวง แก้อาการท้องร่วง ช่วยดับพิษ แก้รำมะนาด ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย นำเปลือกมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  3. แก้ริดสีดวงที่จมูก นำเปลือกต้นนำมามวนทำเป็นยาสูบ
  4. ต้านโรคมะเร็ง ช่วยบรรเทาอาการปวดของมดลูกในระหว่างมีประจำเดือน ยาระบายอ่อนๆ นำใบมาคั่วให้แห้งแล้วชงกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  5. ยาระบายอ่อนๆ นำใบสดๆ นำมาปิ้งไฟชงกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  6. ยาอายุวัฒนะ ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยฆ่าเชื้อในช่องปากและทางเดินอาหาร ช่วยขับลมในลำไส้  นำเมล็ดมารับประทาน

ถิ่นกำเนิด :
ข่อยเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย

 





.