บทความสมุนไพรสมุนไพรสำหรับใช้ดอกปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้ผลปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้รากปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้เมล็ดปรุงยาสมุนไพรแนะนำ

กระถิน


ชื่อสมุนไพร : กระถิน
ชื่อเรียกอื่นๆ : กระถินไทย, กระถินยักษ์, กระถินบ้าน (ภาคกลาง), กะเส็ดโคก, กะเส็ดบก (ราชบุรี), ตอเบา, สะตอเทศ, สะตอเบา (ภาคใต้), ผักก้านถิน (เชียงใหม่) และ ผักหนองบก (ภาคเหนือ)
ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Leucaena leucocephala (Lamk.)de Wit
ชื่อสามัญ : White Popinac, Lead Tree, Horse Tamarind และ Leucaena
วงศ์ :  LEGUMINOSAE-MIMOSOIDEAE



 KT4

กระถินเป็นพืชที่พบได้ทั่วไปเริ่มนำเข้ามาปลูกในไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัย จัดเป็นพืชริมรั้วซึ่งขยายพันธุ์ได้ง่ายเพียงแค่ใช้เมล็ด ค่อนข้างตายยากถึงแม้ว่าจะตัดทิ้งแต่ก็สามารถแตกกิ่งขึ้นมาใหม่ ในอดีตคนไทยเชื่อว่ากระถินเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งที่ควรปลูกไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และหากปลูกร่วมกับต้นสารภีนั้นจะเป็นเกาะกำบังสิ่งที่ชั่วร้ายได้ นอกเหนือจากความเชื่อว่าเป็นไม้มงคลแล้วยังพบว่าเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณนานับประการตั้งแต่ยอดตลอดจนไปถึงรากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านโรคมะเร็ง บำรุงสายตา บำรุงตับ ขับระดูขาว จึงถือได้ว่าเป็นยาอายุวัฒนะชั้นเลิศเลยก็ว่าได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีประโยชน์ในด้านการเลี้ยงสัตว์โดยนำมาเป็นอาหาร อีกทั้งยังสามารถผสมกับหญ้าทำเป็นพืชหมักได้ด้วย นอกจากนั้นยังขึ้นชื่อว่าเป็นพืชที่บำรุงดินซึ่งช่วยแก้ปัญหาการขาดสารไนโตรเจนในดินได้

 KT3

ลักษณะสมุนไพร :
กระถินเป็นไม้พุ่มที่มีขนาดใหญ่จนถึงไม้ต้นที่มีขนาดเล็ก ไม่ผลัดใบ ค่อนข้างสูงมากสูงถึง 10 เมตร ลักษณะต้นเป็นเรือนยอดรูปไข่หรือทรงกลม เปลือกมีสีเทา แตกกิ่งก้านสาขาน้อย ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้นเรียงสลับกัน แกนกลางของใบมีความยาว 10-20 เซนติเมตร  มีขนตรงบริเวณใบย่อยจำนวน  5-20 คู่ เรียงตรงข้าม ปลายใบค่อนข้างแหลม โคนใบมีลักษณะเบี้ยว ขอบใบมีขน ดอกออกเป็นช่อแบบกระจุกกันแน่นและออกตามง่ามใบประมาณ 1-3 ช่อ ก้านช่อดอกมีความยาว 2-5 เซนติเมตร มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ โคนเป็นรูประฆังติดกัน ปลายแยกออกเป็นรูปสามเหลี่ยม กลีบดอกสีขาว 5 กลีบ ลักษณะเป็นรูปช้อน  เกสรเพศผู้ 10 อัน มีก้านชูอับเรณู รังไข่มีขน ฝักแบน ความกว้าง 2 เซนติเมตร ความยาวได้ถึง 20 เซนติเมตร ปลายฝักแหลม ก้านยาวไม่มาก ซึ่งฝักแก่จะแตกตามยาว โดยภายในมีเมล็ดสีน้ำตาลแบนเป็นมันวาว ทรงรูปไข่ ประมาณ 15-30 เมล็ด

KT2

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ราก, ดอก, ยอด, ฝัก และ เมล็ด
สรรพคุณทางยา :

  1. ราก ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ และขับระดูขาวของสตรี
  2. ดอก แก้เกล็ดกระดี่ขึ้นตา และบำรุงตับ
  3. ยอด เสริมสร้างและบำรุงกระดูกลดระดับน้ำตาลในเลือด รักษาโรคความดันโลหิตสูง บำรุงและรักษาสายตา บำรุงหัวใจ เจริญอาหาร แก้อาอาการร้อนในกระหายน้ำ ลดการเกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร
  4. ฝัก เสริมสร้างและบำรุงกระดูกบำรุงหัวใจ เจริญอาหาร แก้อาอาการร้อนในกระหายน้ำ แก้อาการท้องร่วง ลดการเกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร ใช้ห้ามเลือด
  5. เมล็ด ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยเสริมสร้างและบำรุงกระดูกแก้อาการนอนไม่หลับ ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิตัวกลม ช่วยขับลมในลำไส้ ช่วยขับระดูขาวของสตรี ลดการเกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร บำรุงตับและไต

 KT6

วิธีการใช้ :

  1. ยาอายุวัฒนะ ช่วยขับระดูขาว นำรากกระถินมาต้มกับน้ำเปล่า แล้วรับประทานน้ำต้มราก
  2. แก้เกล็ดกระดี่ขึ้นตา ช่วยบำรุงตับ นำดอกคั้นเป็นน้ำ แล้วรับประทานน้ำคั้นดอก หรือ รับประทานน้ำต้มดอก
  3. บำรุงกระดูก ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด รักษาโรคความดันโลหิตสูง บำรุงและรักษาสายตา ช่วยบำรุงหัวใจ เจริญอาหาร แก้อาอาการร้อนในกระหายน้ำ ลดการเกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร นำยอดอ่อนมารับประทานเป็นผักสดๆ หรือรับประทานร่วมกับน้ำพริก ส้มตำ ยำหอยนางรมและยำเล็บมือนาง
  4. เสริมสร้างและบำรุงกระดูก บำรุงหัวใจ เจริญอาหาร แก้อาอาการร้อนในกระหายน้ำ แก้อาการท้องร่วง ลดการเกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร ใช้ห้ามเลือด นำฝักอ่อนมารับประทานเป็นผักสดๆ หรือรับประทานร่วมกับอาหารประเภทต่างๆได้แก่ น้ำพริก ส้มตำ และยำต่างๆ
  5. บำรุงกระดูก แก้อาการนอนไม่หลับ ยาถ่ายพยาธิตัวกลม ช่วยขับลมในลำไส้ ช่วยขับระดูขาว ลดการเกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร บำรุงตับ และ ไต นำเมล็ดอ่อนๆมารับประทานเป็นผักสดๆ หรือรับประทานร่วมกับอาหารประเภทต่างๆได้แก่ น้ำพริก ส้มตำ และยำต่างๆ

 KT1

ถิ่นกำเนิด :
กระถินเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกาเขตร้อนและหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก

 





.