ชื่อสมุนไพร : สะเดา
ชื่อเรียกอื่นๆ : สะเลียม (ภาคเหนือ), กะเดา (ภาคใต้), ผักสะเลม (ไทลื้อ), ตะหม่าเหมาะ (กะเหรี่ยงแดง), ลำต๋าว (ลั้วะ), สะเรียม (ขมุ), ควินิน (ทั่วไป) และจะตัง (ส่วย)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Azadirachta indica A. Juss. var. siamensis Valeton
ชื่อสามัญ : Siamese neem tree, Nim , Margosa, Quinine
วงศ์ : Meliaceae
สะเดาเป็นพันธุ์ไม้ที่ปลูกง่าย โตเร็ว และทนแล้งได้ดี สะเดา แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ สะเดาอินเดีย สะเดาไทย และสะเดาช้าง ซึ่งมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในด้านของลักษณะทางกายภาพ ทุกๆส่วนในต้นสะเดามีรสชาติขม แต่เต็มไปด้วยประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เส้นใย เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี และไนอาซิน และยังมีสรรพคุณในการรักษาโรคต่างๆมากมาย ทั้งการมีส่วนช่วยให้เจริญอาหาร แก้พิษ บำรุงธาตุ แก้โรคหัวใจ แก้ไข้มาลาเรีย เป็นยาสมานแผล ใช้ถ่ายพยาธิ และรักษาโรคเบาหวาน โดยมากนิยมนำเอาสะเดามาลวกจิ้มกินกับน้ำพริกเพื่อลดความขมในตัวของมัน และมีการนำสะเดามาใช้เป็นเครื่องเคียงเพื่อรับประทานกับน้ำปลาหวานด้วย
มากไปกว่านั้นเนื่องจากสะเดาเป็นไม้ยืนต้นที่มีขนาดใหญ่จึงสามารถใช้ให้ร่มเงาหรือกันลมได้ เนื้อไม้จากต้นสะเดาก็มีความแข็งแรง สามารถนำเนื้อไม้จากลำต้นไปใช้ก่อสร้างบ้านเรือน ทำเสาเข็ม และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้ อีกทั้งเนื้อไม้ยังใช้เป็นเชื้อเพลิงคุณภาพดีได้ด้วย
ลักษณะสมุนไพร :
สะเดาเป็นไม้ต้น สูงประมาณ 5-10 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มกลม เปลือกลำต้นมีสีน้ำตาลแดง หรือสีออกเทาแตกเป็นร่องลึกตามแนวยาว ใบสะเดาเป็นใบประกอบแบบขนนก สีเขียว ลักษณะใบคล้ายรูปหอก กว้าง 3-4 ซม. ยาว 4-8 ซม. โคนใบมน ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก แผ่นใบเรียบมัน ออกเรียงสลับ มีใบย่อย 4-7 ใบ แต่ละใบมีเส้นใบมีประมาณ 15 คู่ ดอกสะเดามีสีขาวนวล ออกเป็นช่อตามง่ามใบ ดอกมีกลิ่นหอม ก้านดอกย่อยยาวประมาณ 2 มม. มีขนนุ่มสั้น กลีบเลี้ยงรูปทรงแจกัน ปลายเป็นพูกลมซ้อนเหลื่อมกัน กลีบดอกลักษณะคล้ายช้อนแคบยาว 4-6 มม. มี 5 กลีบ โคนติดกัน มีเกสรเพศผู้ 10 อัน และรังไข่เกลี้ยง ผลสดทรงรี ยาว 1-2 มม. สีเขียว ผิวเรียบ เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองส้ม ติดผลเมื่อปลูกตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป และให้ผลผลิตเต็มที่เมื่ออายุ 10 ปี ภายในผลมี 1 เมล็ด รูปทรงรี
สะเดาขยายพันธุ์ได้ง่ายด้วยการเพาะเมล็ด และถือเป็นพันธุ์ไม้ที่เจริญเติบโตรวดเร็ว เจริญได้ดีในแถบร้อน และทนแล้งได้ดีมาก
ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ดอก ยอดดอก ขนอ่อน เปลือกลำต้น ก้านใบ ใบ แก่น ราก ผล เปลือกราก น้ำมันจากเมล็ด
สรรพคุณทางยา :
- ดอกและยอดอ่อน แก้โลหิตเป็นพิษ แก้ริดสีดวง แก้อาการคันในลำคอ บำรุงธาตุ บำรุงน้ำดี ขับลม และแก้ไข้
- เปลือกลำต้น แก้ไข้ ช่วยให้เจริญอาหาร แก้ท้องเสีย บิดมูกเลือดและแก้ไข้มาลาเรีย
- ก้านใบ แก้ไข้ทั่วไปหรือไข้จับสั่น ทำยารักษาไข้มาลาเรีย แก้ท้องร่วง แก้กระษัยและแก้ร้อนในกระหายน้ำ
- ใบ แก้โรคผิวหนัง น้ำเหลืองเสีย บำรุงธาตุ และช่วยย่อยอาหาร
- แก่น แก้คลื่นไส้อาเจียนและขับเสมหะ บำรุงเลือด และบำรุงไฟธาตุ
- ราก รักษาโรคกระเพาะ แก้โรคผิวหนัง แก้เสมหะซึ่งเกาะแน่นอยู่ในทรวงอก และช่วยทำให้อาเจียน
- ผล มีรสขมเนื่องจากสาร bakayanin มีฤทธิ์ช่วยถ่ายพยาธิ แก้ริดสีดวง และเป็นยาระบาย
- เปลือกราก เป็นยาฝาดสมาน แก้ไข้ ทำให้อาเจียน แก้โรคผิวหนัง
- เมล็ด สกัดน้ำมันออกมาใช้รักษาโรคผิวหนัง และมีฤทธิ์เป็นยาฆ่าแมลงได้
ถิ่นกำเนิด :
สะเดาเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย
.