บทความสมุนไพรสมุนไพรสำหรับใช้ดอกปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้ใบปรุงยาสมุนไพรแนะนำ

ว่านกาบหอย


1



ชื่อสมุนไพร : ว่านกาบหอย
ชื่อเรียกอื่นๆ : กาบหอยแครง และ ว่านหอยแครง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tradescantia spathacea  Stearn
ชื่อสามัญ : Oyster plant , White flowered tradescantia
วงศ์ :  Commelinaceae

MINOLTA DIGITAL CAMERA

ว่านกาบหอยเป็นพันธ์ไม้ที่เหมาะแก่การปลูกเป็นไม้ประดับตามสนามหน้าบ้าน ร้านค้า สถานประกอบการ หรือสวนสาธารณะ เพื่อความเป็นสิริมงคลและความสวยงาม เนื่องจากว่านกาบหอยมีสีของใบที่สวยงาม ใบไม่ค่อยร่วงและไม่ต้องดูแลรักษามาก อีกทั้งว่านกาบหอยยังมีประโยชน์ทางยาสามารถใช้เป็นยาแผนโบราณ มีสรรพคุณช่วยแก้ร้อนในและต้านสารอนุมูลอิสระทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อโรคร้ายได้ดี

ว่านกาบหอยที่เพาะปลูก มี 2 พันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ปกติ และพันธุ์แคระ มีความแตกต่างกันในด้านลักษณะทางกายภาพและการออกดอก

Tradescantia spathacea

ลักษณะสมุนไพร :
ว่านกาบหอยเป็นไม้ล้มลุก ปลูกได้นานหลายปี ทรงพุ่มเตี้ย ไม่ค่อยแตกกิ่งก้านสาขา พันธุ์ปกติสูง 50-70 เซนติเมตร แต่หากเป็นพันธุ์แคระจะสูงไม่เกิน 20 – 30 เซนติเมตร ลำต้นมีลักษณะอวบใหญ่แข็งแรง แตกกอแน่นบริเวณโคนต้น ใบของว่านกาบหอยเป็นใบเดี่ยว ออกสลับตั้งฉากในกิ่งเดียวกัน ลักษณะใบคล้ายรูปหอก คือใบเรียวยาว ปลายใบแหลม โคนใบสอบเรียว ตัวใบยาวประมาณ 15-30 เซนติเมตร กว้าง 2.5-6 เซนติเมตร ขอบใบเรียบ มี 2 สีในหนึ่งใบ โดยหลังใบมีสีเขียว ท้องใบมีสีม่วงแดง เนื้อใบหนา ดอกออกเป็นช่ออยู่ในกาบหุ้มช่อดอก แต่ละช่อประกอบด้วยใบประดับสีม่วงปนเขียวคล้ายกาบหอยแครง ดอกมีสีขาวเล็กอยู่รวมเป็นช่อกระจุก ไม่มีกลิ่น กลีบดอกมี 3 กลีบ รูปร่างค่อนข้างกลม แผ่นกลีบหนา ในดอกมีเกสรเพศผู้มี 6 อัน สีเหลือง ลักษณะคล้ายถั่ว  และมีเกสรเพศเมีย 1 อัน สีขาว ไม่มีก้าน มีรังใข่ 3 รัง พบดอกเฉพาะว่านกาบหอยพันธุ์ปกติแต่ไม่พบในพันธุ์แคระ ผลเป็นผลเดี่ยว ผลสดมีสีเขียวอ่อนลักษณะรี กว้าง 2.5-3 มิลลิเมตร ยาว 3.5 มิลลิเมตร มีขนเล็กน้อย เมื่อผลแก่จะแตกออกเป็น 3 ซีก และมีเมล็ดเล็กอยู่ภายใน ว่านกาบหอยมักขึ้นตามที่ราบลุ่มทั่วๆไป เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย ต้องการความชื้นปานกลาง ว่านชนิดนี้ปลูกได้ดีและมีสีสวยในพื้นที่ที่มีแดดส่องถึงเพียงครึ่งวัน  หากปลูกในบริเวณพื้นที่ที่มีแดดส่องทั้งวันจะส่งผลให้ความเข้มของสีใบลดลง ว่านกาบหอยขยายพันธุ์ได้ง่ายโดยการปักชำ

2

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ใบสดหรือใบแห้ง ดอกแห้ง
สรรพคุณทางยา :

  1. ใบ  ช่วยดับกระหาย แก้อาการร้อนใน แก้ไอ แก้อาการอาเจียนเป็นโลหิตหรืออาการฟกช้ำภายในเนื่องจากโดนแรงกระแทกหรือพลัดตกจากที่สูง สามารถช่วยแก้โรคบิด แก้อาการถ่ายเป็นเลือดหรือปัสสาวะเป็นเลือดได้
  2. ดอก ดอกของว่านกาบหอยมีรสชุ่มเย็นเป็นเอกลักษณ์ นิยมนำมาต้มกับเนื้อหมูรับประทาน เพื่อขับเสมหะ แก้อาการไอแห้งๆ แก้อาเจียนหรือไอเป็นโลหิต ห้ามเลือดกำเดา แก้ปัสสาวะเป็นเลือดและแก้บิดถ่ายเป็นเลือดได้

วิธีการใช้ :

  1. แก้ไอ  แก้ร้อนใน ดับกระหายน้ำ แก้อาเจียนเป็นเลือดหรือแก้ฟกช้ำภายใน ให้ใช้ใบสด 3 ใบ ต้มในน้ำเดือด แล้วผสมน้ำตาลกรวดเล็กน้อยให้พอมีรสชาติหวาน จากนั้นกรองเอาแต่น้ำเพื่อดื่มรับประทานวันละ 3 เวลาก่อนอาหาร
  2. แก้หวัด ไอมีเสมหะปนเลือด เลือดกำเดาออกหรือโรคบิดจากแบคทีเรีย ให้ใช้ดอกที่ผ่านการอบแห้งปริมาณ 20-30 กรัม มาต้มในน้ำเดือดเพื่อดื่มรับประทาน
  3. แก้โรคผิวหนังหรือผื่นคัน ให้คั้นน้ำจากใบว่านกาบหอยมาทาบริเวณมือและเท้า จากนั้นปล่อยทิ้งให้แห้ง สามารถป้องกันและรักษาอาการมือและเท้าเน่าเปื่อยเนื่องจากการทำนาได้

ถิ่นกำเนิดของว่านกาบหอย :
ว่านกาบหอยมีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศคิวบา เม็กซิโก และอเมริกากลาง

 





.