ชื่อสมุนไพร : ทองหลางป่า
ชื่อเรียกอื่นๆ : ตองหลาง (แพร่), ทองบก (น่าน), ทองมีดขูด (ภาคเหนือ), ทองหลาง (ภาคกลาง), เก๊าตอง (คนเมือง), ไม้ตองหนาม, ไม้ตองน้ำ (ไทใหญ่) และ ยาเซาะห่ะ (อาข่า)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Erythrina subumbrans (Hassk.) Merr.
ชื่อสามัญ : Indian Coral Tree และ December Tree
วงศ์ : LEGUMINOSAE
ทองหลางป่าเป็นพรรณไม้ที่มีเขตการกระจายพันธุ์จากอินเดียจนถึงอินโดนีเซีย พบขึ้นตามป่าดิบบริเวณที่ชุ่มชื้นและตามริมห้วยในป่าดิบแล้ง ที่ระดับความสูงตั้งแต่ 100-900 เมตร ดอกมีสีสันสวยงามซึ่งจะติดดอกในช่วงประมาณเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ เนื้อไม้จะเป็นสีขาว ค่อนข้างอ่อน ใช้ทำของเล่นสำหรับเด็ก หรือนำมาใช้รั้วบ้าน เพราะมีหนาม ดอกให้สีแดงสำหรับใช้ย้อมผ้า ใบอ่อนใช้รับประทานสดหรือใช้ใส่ในแกง หรือจะนำยอดอ่อนมาลวกรับประทานร่วมกับน้ำพริก ใส่ในแกง แกงหน่อ แกงขนุน ฯลฯ ตำรายาพื้นบ้านล้านนาจะใช้ทองหลางป่าผสมกับหนามแน่ นำมาตำผมกับปูนแดงใช้สุมแก้อาการปวดศีรษะ ชาวอาข่าจะใช้ใบเป็นส่วนผสมของยารักษาวัณโรค และใบสามารถใช้ตำพอกรักษาฝี และบดทาแก้โรคบวมตามข้อได้ นอกจากนี้ชาวเขาเผ่าเย้าจะใช้ใบทองหลางป่า นำมาตำพอกรักษากระดูกหักและแก้อาการปวดกระดูกได้อีกด้วย
ลักษณะสมุนไพร :
ทองหลางป่าเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบในระยะสั้นๆ มีความสูงของต้นประมาณ 10-20 เมตร และอาจสูงได้ถึง 25 เมตร เรือดยอดแผ่กว้าง เปลือกลำต้นเป็นสีขาวหม่น มีหนามแหลมสั้นๆ ขึ้นกระจายทั่วลำต้นและกิ่ง ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อย 3 ใบ ออกเรียงสลับ ใบกลางมีขนาดใหญ่กว่าใบข้าง ลักษณะของใบย่อยเป็นหัวใจ รูปไข่แกมสามเหลี่ยม หรือรูปไข่แกมแกมสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ปลายใบแหลม โคนใบตัดหรือมน ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 6-14 เซนติเมตร และยาวประมาณ 8-16 เซนติเมตร เส้นใบด้านล่างเด่นชัด ที่โคนก้านใบมีต่อม 1 คู่ ดอกเป็นช่อกระจะบริเวณปลายกิ่ง มีขนสั้นปกคลุม ดอกย่อยมีจำนวนมาก ก้านดอกย่อยยาวประมาณ 2-3 มิลลิเมตร กลีบดอกเป็นสีแดงเข้ม ดอกมีลักษณะเป็นรูปดอกถั่ว ดอกล่างจะบานก่อน กลีบรองดอกเป็นหลอด กลีบดอกมี 5 กลีบ กลีบบนแผ่โค้งเป็นรูปเรือ ดอกมีเกสรเพศผู้ 10 อัน เชื่อมติดกันที่โคนด้านล่าง ก้านเกสรเป็นสีแดง อับเรณูเป็นสีเหลือง ผลมีลักษณะเป็นฝักโค้งแบน ตอนโคนแบน ไม่มีเมล็ด ตอนปลายหนา แบ่งเป็นห้องๆ มีเมล็ดประมาณ 1-5 เมล็ด รูปรี เมื่อแก่ฝักจะแตกอ้าออกตามทางยาวจากส่วนปลาย
ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ใบ, เปลือกต้น และ แก่น
สรรพคุณทางยา :
- ใบ แก้อาการปวดศีรษะ รักษาวัณโรค รักษาฝี แก้โรคบวมตามข้อ รักษากระดูกหักและแก้อาการปวดกระดูก แก้อหิวาตกโรค
- เปลือกต้น แก้อหิวาตกโรค
- แก่น แก้อหิวาตกโรค
วิธีการใช้ :
- แก้อาการปวดศีรษะ นำใบทองหลางป่าผสมกับหนามแน่ นำมาตำผมกับปูนแดงใช้สุมแก้อาการปวดศีรษะ
- รักษาวัณโรค แก้อหิวาตกโรค นำใบมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
- รักษาฝี นำใบมาตำพอกแก้ฝี
- แก้โรคบวมตามข้อ นำใบมาบดทาแก้โรคบวมตามข้อ
- รักษากระดูกหักและแก้อาการปวดกระดูก นำใบมาตำพอกรักษากระดูกหักและแก้อาการปวดกระดูก
- แก้อหิวาตกโรค นำเปลือกต้นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
- แก้อหิวาตกโรค นำแก่นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
ถิ่นกำเนิด :
ทองหลางป่าเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในอินเดียจนถึงอินโดนีเซีย
.