ชื่อสมุนไพร : มะค่าแต้
ชื่อเรียกอื่นๆ : มะค่าหยุม, มะค่าหนาม (ภาคเหนือ), แต้ (ภาคอีสาน), มะค่าหนาม, มะค่าลิง (ภาคกลาง), กอกก้อ (ชาวบน-นครราชสีมา), กอเก๊าะ, ก้าเกาะ (เขมร-สุรินทร์), กรอก๊อส (เขมร-พระตะบอง) และ แต้หนาม
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sindora siamensis Teijsm. & Miq.
ชื่อสามัญ : Ma Kha Num
วงศ์ : LEGUMINOSAE
มะค่าแต้จัดเป็นพืชที่ในประเทศไทยนั้นสามารถพบได้ตามป่าป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณแล้ง ป่าโคกข่าว ป่าผลัดใบ ป่าดิบแล้ง และป่าชายหากที่ระดับใกล้กับน้ำทะเลไปจนถึงที่ระดับความสูง 400 เมตร และเป็นพืชขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและวิธีการตอนกิ่ง ประโยชน์ของมะค่าแต้ คือ เมล็ดแก่เมื่อนำมาเผาไฟแล้วกะเทาะเปลือกออก เอาแต่เนื้อข้างในมารับประทานเป็นอาหารว่างได้ โดยเนื้อจะมีลักษณะแข็งๆ คล้ายกับเมล็ดมะขามและมีรสมัน อีกทั้งฝักและเปลือกให้น้ำฝาดชนิด Catechol และ Pyrogallol ใช้สำหรับฟอกหนัง ส่วนเปลือกต้นจะนิยมนำมาใช้ย้อมสีเส้นไหม ย้อมแห โดยจะให้สีแดง ในด้านเชื้อเพลิง สามารถนำมาใช้ทำเป็นถ่านได้ดี โดยจะให้ความร้อนได้สูงถึง 7,347 แคลอรี่ต่อกรัม แนะนำว่าไม่ควรปลูกต้นมะค่าแต้ในพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ส่วนบุคคล เพราะเป็นไม้ที่มีหนามแหลมซึ่งเป็นอันตราย
ลักษณะสมุนไพร :
มะค่าแต้จัดเป็นไม้ยืนต้น มีความสูงของต้นประมาณ 10-15 เมตร แตกกิ่งก้านแผ่กว้าง มีเรือนยอดเป็นรูปร่มหรือเป็นทรงเจดีย์ต่ำ กิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนสีน้ำตาล เปลือกต้นเรียบเป็นสีเทาคล้ำ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ มีใบย่อยประมาณ 3-4 ใบ แกนช่อใบยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร ลักษณะของใบเป็นรูปรีหรือรูปไข่ ปลายใบเว้าตื้น โคนใบเป็นรูปลิ่ม ส่วนขอบใบเป็นคลื่น ใบมีขนาดกว้างประมาณ 3-8 เซนติเมตร และยาวประมาณ 6-15 เซนติเมตร แผ่นใบหนา แผ่นใบด้านบนมีขนหยาบ ส่วนด้านท้องใบมีขนนุ่ม ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบหรือตามปลายกิ่ง ช่อดอกยาวประมาณ 10-25 เซนติเมตร ดอกเป็นสีเหลืองแกมเขียว มีกลีบเลี้ยงหนา 4 กลีบ ลักษณะเป็นรูปไข่กว้าง ปลายกลีบมีหนามขนาดเล็ก ส่วนกลีบดอกยาวประมาณ 7 มิลลิเมตร ดอกมีเกสรเพศผู้ 10 อัน และมี 2 อันใหญ่กว่าอันอื่นๆ ด้านนอกดอกมีขนสีน้ำตาล ก้านดอกยาวประมาณ 0.2-0.4 เซนติเมตร โดยจะออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ออกผลเป็นฝักเดี่ยวแบนค่อนข้างกลม ที่ผิวเปลือกมีหนามแหลมอยู่ทั่วไป ผลเป็นรูปไข่กว้างหรือเป็นรูปโล่ โคนเบี้ยวและมักมีติ่งแหลม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4.5-10 เซนติเมตร พอแห้งจะแจกออกเป็น 2 ซีก ภายในมีเมล็ดสีดำประมาณ 1-3 เมล็ด โดยผลจะแก่ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน
ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : เปลือกต้น, เมล็ด และ ผล
สรรพคุณทางยา :
- เปลือกต้น แก้ซาง แก้ลิ้นเป็นฝ้า ยาแก้พยาธิ รักษาริดสีดวงทวารหนัก ยาแก้โรคผิวหนัง
- เมล็ด ยาขับพยาธิ รักษาริดสีดวงทวารหนัก ยาแก้โรคผิวหนัง
- ผล รักษาริดสีดวงทวารหนัก ยาแก้โรคผิวหนัง
วิธีการใช้ :
- แก้ซาง แก้ลิ้นเป็นฝ้า ยาแก้พยาธิ รักษาริดสีดวงทวารหนัก ยาแก้โรคผิวหนัง นำเปลือกต้นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
- ยาขับพยาธิ รักษาริดสีดวงทวารหนัก ยาแก้โรคผิวหนัง นำเมล็ดมาตากแห้งคั่วไฟต้มกับน้ำดื่มรับประทาน หรือ ทาแก้โรคผิวหนัง
- รักษาริดสีดวงทวารหนัก ยาแก้โรคผิวหนัง นำผลมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน หรือ ทาแก้โรคผิวหนัง
ถิ่นกำเนิด :
มะค่าแต้เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคอินโดจีนจนถึงมาเลเซีย
.