ชื่อสมุนไพร : ส้มลม
ชื่อเรียกอื่นๆ : เครือส้มลม (อุบลราชธานี)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aganonerion polymorphum Pierre ex Spire
ชื่อสามัญ : –
วงศ์ : APOCYNACEAE
ส้มลมเป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด มีเขตการกระจายพันธุ์เฉพาะในภูมิภาคอินโดจีน ในไทยพบเฉพาะทางภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และทางภาคกลางเท่านั้น โดยมักขึ้นกระจายทั่วไปในป่าเต็งรัง ป่าละเมาะ และป่าดิบแล้ง ที่มีระดับความสูงจนถึงประมาณ 700 เมตร จากระดับน้ำทะเล ดอกมักออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนกรกฎาคมของทุกปี โดยประโยชน์ของส้มลม คือ ใบ ดอก และผลมีรสเปรี้ยว สามารถใช้รับประทานได้ และยอดอ่อน ใบอ่อน ใบแก่ มีรสเปรี้ยวพอประมาณ (ไม่เปรี้ยวเท่ากับใบมะขามอ่อน) ใช้รับประทานเป็นผักสดจิ้มกับน้ำพริก เกลือ ลาบ ปลาร้าบอง ป่นกบ ป่นปลา ก้อย กะปอม เป็นต้น บางครั้งใช้แทนใบมะขาม ทำต้มส้มต่างๆ เช่น ต้มอึ่ง ต้มยำปลา เป็นต้น หรือใช้เป็นอาหารสัตว์จำพวกโค กระบือ
ลักษณะสมุนไพร :
ส้มลมเป็นม้เถาเลื้อยพาดพันกับต้นไม้อื่น แต่ไม่มีมือสำหรับใช้ยึดเกาะ ลำต้นหรือเถามีลักษณะกลมเรียบ มีขนาดเล็กสีเขียว และมีน้ำยางสีขาว ตามกิ่งอ่อนมีขนละเอียด ส่วนกิ่งแก่มีช่องอากาศกระจายอยู่ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกัน ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ รูปวงรี หรือรูปใบหอก ปลายใบแหลม แหลมเป็นติ่ง หรือกลม โคนใบมน กลม ป้าน หรือเป็นรูปหัวใจ ส่วนขอบใบเรียบ แผ่นใบค่อนข้างบางเรียบและเป็นมันมันวาว สีเขียวเข้ม และมักมีปื้นหรือจุดสีแดงกระจาย หลังใบและท้องใบเรียบ หรือหลังใบด้านบนไม่มีน ส่วนท้องใบด้านล่างมีขน มีขนสั้นนุ่มตามซอกเส้นแขนงใบด้านท้องใบ เส้นแขนงใบมีข้างละประมาณ 3-6 เส้น ใบอ่อนมีรสเปรี้ยว ออกดอกเป็นช่อแบบแยกแขนงหรือช่อเชิงหลั่น โดยจะออกตามซอกใบหรือที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยมีขนาดเล็กและมีจำนวนมาก ดอกย่อยเป็นสีชมพูอ่อน สีชมพูเข้ม หรือสีบานเย็น ทรงกลม ปลายแหลม มีความยาวประมาณ 1 เซนติเมตร และมีประมาณ 20-30 ดอก กลีบดอกมี 5 กลีบ กลีบมีลักษณะบิดเวียนขวาเล็กน้อย รูปค่อนข้างกลม กลีบดอกส่วนมากเป็นสีชมพูอมแดง ปากหลอดมีสีอ่อน ปากหลอดมีขนสีขาวสั่นนุ่มประปราย โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดสั้นๆ เป็นสีขาวอมชมพูหรือสีเขียวแกมขาว ปลายแยกกัน ส่วนกลีบเลี้ยงดอกมี 5 กลีบ สีแดงหรือสีเขียวเข้มปนแดง โคนเชื่อมติดกัน ปลายกลีบแหลม รูปไข่ ใบประดับมีขนาดเล็กรูปไข่แคบ ร่วงได้ง่าย ออกผลเป็นฝักคู่ โคนฝักติดกัน ฝักมีลักษณะกลม ปลายฝักแหลม ยาวได้ประมาณ 20 เซนติเมตร ผิวฝักเกลี้ยง ฝักสดเป็นสีเขียว
ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ใบ, ราก และ ทั้งต้น
สรรพคุณทางยา :
- ราก ยาช่วยขับลม ยาแก้โรคกระเพาะ ยาแก้กล้ามเนื้อท้องเกร็ง ยารักษาอาการปัสสาวะขัด ยาแก้อาการตกขาวของสตรี ยารักษาโรคม้ามโต ยาแก้อาการปวดเมื่อย
- ใบ ช่วยแก้ลมวิงเวียน หน้ามืดตาลาย และช่วยแก้อาการกระหายน้ำ
- ทั้งต้น ช่วยแก้ลมวิงเวียน แก้อาการคัน
วิธีการใช้ :
- ยาช่วยแก้ลมวิงเวียน แก้อาการคัน นำต้นนำมาต้มกับน้ำดื่มรับประทาน
- ช่วยแก้ลมวิงเวียน หน้ามืดตาลาย และช่วยแก้อาการกระหายน้ำ นำใบต้มกับน้ำดื่มรับประทาน
- ยาช่วยขับลม ยาแก้โรคกระเพาะ ยาแก้กล้ามเนื้อท้องเกร็ง ยารักษาอาการปัสสาวะขัด ยาแก้อาการตกขาวของสตรี ยารักษาโรคม้ามโต ยาแก้อาการปวดเมื่อย นำรากต้มกับน้ำดื่มรับประทาน
ถิ่นกำเนิด :
ส้มลมเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
.