พวงไข่มุก

ชื่อสมุนไพร : พวงไข่มุก
ชื่อเรียกอื่นๆ : อุน, อุนฝรั่ง (แพร่), ระป่า (ปราจีนบุรี), ซิตาโหระ (กะเหรี่ยงเชียงใหม่), พอตะบุ (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน), อูนบ้าน (คนเมือง), หมากอูนบ้าน, ไม้ขี้ป้าน (ไทใหญ่), อูนน้ำ และ ทู่ซือจื่อ (จีนกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sambucus simpsonii Rehd.
ชื่อสามัญ : American Elder
วงศ์ : SAMBUCACEAE

PKM5

พวงไข่มุกจัดเป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและวิธีการตอนกิ่ง ซึ่งต้องการน้ำในการเจริญเติบโตในระดับปานกลาง ควรปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดตลอดวันเพราะจะทำให้ต้นมีความแข็งแรง มักขึ้นตามชายป่าทั่วไปที่มีความชุ่มชื้น ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบได้ที่ระดับความสูงประมาณ 200-1,300 เมตร ส่วนใหญ่นิยมใช้ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป ปลูกบริเวณเป็นแนวรั้ว หรือปลูกตามริมน้ำ ริมบ่อน้ำ หรือปลูกตกแต่งสวนให้ใกล้น้ำตกภายในบ้าน เนื่องจากลำต้นมีรูปทรงสวยงาม และดอกจะมีกลิ่นหอมมากในช่วงเช้า โดยสามารถปลูกได้ทั้งในที่มีแสงแดดจัดตลอดวันและที่ร่มรำไร ขยายพันธุ์ได้ง่าย ประโยชน์ของพวงไข่มุกมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ส่วนของยอดอ่อนที่ใช้รับประทานเป็นอาหารได้ หรือ ผลพวงไข่มุกเมื่อสุกแล้วสามารถใช้รับประทานได้ หรือสามารถนำมาใช้ทำแยมและขนมพาย สำหรับในบางประเทศนั้นจะนำดอกพวงไข่มุกมาใช้ปรุงอาหาร หรือชงน้ำดื่มทำไวน์ รวมไปถึงช่อดอกพวงไข่มุกสามารถใช้ไปวัดเพื่อบูชาพระ หรือใช้ในพิธีกรรมต่างๆได้อีกด้วย

 PKM4

ลักษณะสมุนไพร :
พวงไข่มุกเป็นไม้พุ่มเตี้ย ลำต้นมีลักษณะตั้งตรง สูงได้ประมาณ 2-4 เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านจำนวนมาก พุ่มโปร่ง กิ่งแก่กลวง ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงตรงข้าม ใบย่อยมีประมาณ 2-6 คู่ ลักษณะของใบเป็นรูปขอบขนานแกมรูปใบหอกหรือรูปไข่แกมใบหอก ปลายใบแหลมเป็นติ่ง โคนใบมน ส่วนขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ใบมีขนาดความกว้างประมาณ 2-5 เซนติเมตร และความยาวประมาณ 6-15 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อขนาดใหญ่บริเวณปลายกิ่ง ขนาดประมาณ 20-45 เซนติเมตร ดอกย่อยมีจำนวนมาก ขนาดเล็ก กลีบรองดอกเป็นหลอดยาว 1 มิลลิเมตร ส่วนกลีบดอกเป็นสีขาว ที่บริเวณโคนกลีบดอกเชื่อมติดกัน ปลายแยกออกเป็น 5 แฉก ขนาดดอกประมาณ 4-4.5 มิลลิเมตร ดอกมีเกสรเพศผู้สีเหลือง 5 อัน ยอดเกสรเพศเมียแยกออกเป็น 5 แฉก ออกดอกและติดผลในช่วงประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี ผลมีลักษณะเป็นผลสด ลักษณะของผลเป็นรูปกลม ผิวลื่นมัน ผลอ่อนจะเป็นสีเขียว เมื่อแก่แล้วจะเปลี่ยนสีม่วงเข้มเกือบดำ โดยมีขนาดประมาณ 4-5 มิลลิเมตร ภายในมีเมล็ดประมาณ 4-5 เมล็ด ลักษณะของเมล็ดจะเป็นรูปรีแกมขอบขนาน ขนาดประมาณ 2.5 มิลลิเมตร

 PKM2

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ราก, ดอก, ทั้งต้น และ ใบ
สรรพคุณทางยา :

  1. ราก ยาแก้อาการท้องร่วง
  2. ดอก ยาช่วยขับเหงื่อ แก้มือเท้าเคล็ด
  3. ทั้งต้น แก้อาการตัวบวม
  4. ใบ บรรเทาอาการมือเท้าเคล็ด

 PKM3

วิธีการใช้ :

  1. ยาแก้อาการท้องร่วง นำรากแห้ง นำมาต้มกับน้ำแล้วดื่มรับประทานแก้อาการท้องร่วง
  2. ยาช่วยขับเหงื่อ นำดอกแห้ง นำมาต้มกับน้ำแล้วดื่มรับประทานจะช่วยขับเหงื่อ
  3. แก้มือเท้าเคล็ด นำดอกผสมกับสมุนไพรอื่นหมกประคบแก้มือเท้าเคล็ด
  4. แก้อาการตัวบวม นำลำต้นสด นำมาต้มกับน้ำแล้วดื่มรับประทาน
  5. บรรเทาอาการมือเท้าเคล็ด นำใบพวงไข่มุก นำมาต้มใส่ไข่กิน หรือใช้ผสมกับสมุนไพรอื่น เพื่อหมกประคบบรรเทาอาการมือเท้าเคล็ด

ถิ่นกำเนิด :
พวงไข่มุกเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ

 

.

©2024 ThaiHerbal.org | แหล่งเรียนรู้ข้อมูลสมุนไพร WordPress Video Theme by WPEnjoy