สายน้ำผึ้ง

ชื่อสมุนไพร : สายน้ำผึ้ง
ชื่อเรียกอื่นๆ : กิมงิ่งฮวย, หยิ่มตังติ้ง (จีนแต้จิ๋ว), เหยิ่นตงเถิง, จินหยิงฮัว, จินอิ๋นฮวา และ ซวงฮัว (จีนกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lonicera japonica Thunb.
ชื่อสามัญ : Japanese Honeysuckle, Honeysuckle, Lonicera และ Woodbine
วงศ์ : CAPRIFOLIACEAE

SNP2

สายน้ำผึ้งเป็นพืชที่ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป หรือปลูกให้ขึ้นพันกับต้นไม้หรือรั้วบ้าน เพราะเป็นพันธุ์ไม้หอมเลื้อยที่ดอกมีกลิ่นหอมและสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี ดอกสายน้ำผึ้งจะมีเกสรยื่นยาวออกมา เด็กๆ จะนำมาเล่นด้วยการดึงเอาเกสรออกมาจากดอกแล้วปล่อยให้น้ำหวานหยดลงบนลิ้นเพื่อดูดความหวานหอมของดอกไม้ชนิดนี้ สายน้ำผึ้งจึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มและขนมหวานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไวน์ น้ำเชื่อม ไอศกรีม แยม หรือเยลลี่ ส่วนช่อดอกสดจะนำมาใช้แต่งหน้าขนมเค้กหรือขนมหวานเพื่อเพิ่มความสวยงามทำให้ดูน่ารับประทาน และแพทย์ชาวอังกฤษเชื่อว่าสายน้ำผึ้งเหมาะกับผู้ป่วยทางจิต เช่น ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่เกิดจากการคิดถึงบ้าน เพราะสายน้ำผึ้งมีสรรพคุณช่วยปลอบประโลมจิตใจ ทำให้ปล่อยวางความเครียดหรือความวิตกกังวลที่คั่งค้างในใจ และหันมามีความสุขกับชีวิตในปัจจุบันได้อีกด้วย

 SNP1

ลักษณะสมุนไพร :
สายน้ำผึ้งเป็นไม้เถาเลื้อยพัน มีอายุหลายปี มีความยาวประมาณ 9 เมตร เถามีลักษณะกลมเป็นสีน้ำตาล ส่วนเนื้อในเถากลวง แตกกิ่งก้านสาขาออกมากมายเป็นทรงพุ่ม ตามกิ่งอ่อนมีขนสั้นนุ่มสีน้ำตาลปกคลุม ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงตรงข้ามกันเป็นคู่ ลักษณะของใบเป็นรูปขอบขนานแกมรูปไข่ รูปไข่ รูปรี หรือรูปมนรี ปลายใบแหลมมีหางสั้น โคนใบมน หรือตัด หรือเว้าเข้าหากันคล้ายรูปหัวใจ ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1-4 เซนติเมตร และยาวประมาณ 3-8.5 เซนติเมตร หลังใบเป็นสีเขียวเข้ม ส่วนท้องใบเป็นสีเทาอมเขียว เนื้อใบอ่อนนุ่มมีขนขึ้นปกคุลมเล็กน้อย ดอกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง ช่อละ 2 ดอก ก้านใบชูช่อสั้นมีขนนุ่ม ลักษณะของดอกเป็นหลอดเล็กๆ ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร ส่วนปลายแยกเป็นรูปปาก กลีบดอกเป็นสีครีม โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวยแหลมยาว ดอกมีใบประดับคล้ายใบ 1 คู่ ส่วนนอกกลีบจะมีขนปกคลุมอยู่ กลีบรองดอกติดกัน ปลายแยกเป็นรูปสามเหลี่ยม ดอกตูมหรือดอกที่เริ่มบานจะเป็นสีขาว พอต่อมาจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองส้มหรือสีเหลืองทอง ผลเป็นผลสด รูปทรงกลม ผิวผลเกลี้ยง เรียบเป็นมันเงา ผลเมื่อสุกจะเป็นสีดำ

 SNP4

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ทั้งต้น, ดอกตูม และ เถาสด
สรรพคุณทางยา :

  1. ทั้งต้น ยาขับปัสสาวะ แก้แผลฝีต่างๆ แก้ท้องร่วง แก้โรคตับอักเสบ แก้โรคลำไส้ แก้ปวดเมื่อยตามข้อ
  2. ดอกตูม รักษาโรคผิวหนัง ยาเจริญอาหาร แก้เต้านมอักเสบ
  3. เถาสด  รักษาบิดไม่มีตัว แก้ท้องเสีย รักษาลำไส้อักเสบ

 SNP3

วิธีการใช้ :

  1. ยาขับปัสสาวะ แก้แผลฝีต่างๆ แก้ท้องร่วง แก้โรคตับอักเสบ แก้โรคลำไส้ แก้ปวดเมื่อยตามข้อ นำทั้งต้นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน หรือ นำมาตำแล้วพอกบริเวณแผล
  2. รักษาโรคผิวหนัง ยาเจริญอาหาร แก้เต้านมอักเสบ นำดอกตูมมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทานช่วยเจริญอาหาร หรือนำมาทารักษาโรคผิวหนัง
  3. รักษาบิดไม่มีตัว แก้ท้องเสีย รักษาลำไส้อักเสบ นำเถาสด 100 กรัม สับเป็นท่อนเล็กๆ ใส่ลงในหม้อเคลือบ เติมน้ำลงไป 200 มิลลิลิตร แช่น้ำไว้ 12 ชั่วโมง แล้วต้มด้วยไฟอ่อนๆ 3 ชั่วโมง แล้วเติมน้ำให้ได้ 100 มิลลิลิตร กรองเอาน้ำรับประทานวันละ 1.6-2.4 มิลลิลิตร ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ให้เพิ่มหรือลดขนาดของยาตามอาการ โดยทั่วไปเริ่มต้นให้รับประทาน 20 มิลลิลิตร ทุก 4 ชั่วโมง เมื่ออาการดีขึ้นให้รับประทานครั้งละ 20 มิลลิลิตร ทุก 6 ชั่วโมง หลังจากอาการท้องร่วงหายไปให้รับประทานต่ออีก 2 วัน

SNP5

ถิ่นกำเนิด :
สายน้ำผึ้งเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชีย ประเทศไทย จีน และญี่ปุ่น

 

.

©2024 ThaiHerbal.org | แหล่งเรียนรู้ข้อมูลสมุนไพร WordPress Video Theme by WPEnjoy