บทความสมุนไพรสมุนไพรสำหรับใช้รากปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้เมล็ดปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้ใบปรุงยาสมุนไพรแนะนำ

โหระพา


ชื่อสมุนไพร : โหระพา
ชื่อเรียกอื่นๆ : กอมก้อ (ภาคเหนือและอีสาน), นางพญาร้อยชู้, โหระพาไทย, โหระพาเทศ และ ห่อกวยซวย
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ocimum basilicum L.
ชื่อสามัญ : Basil และ Thai Basil
วงศ์ LABIATAE
HP1
โหระพาเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่นิยมรับประทานแบบสดๆ อีกทั้งยังนิยมใช้ในการปรุงรสและแต่งกลิ่นอาหารประเภทแกงเลียงหรือแกงเผ็ดต่างๆ ทำให้อาหารมีกลิ่นหอมที่น่ารับประทานมากขึ้น ในใบโหระพามีองค์ประกอบสำคัญภายในที่เรียกว่า “น้ำมันโหระพา” ซึ่งเป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีสารเมธิล ชาวิคอล (Methyl Chavicol) จัดว่าเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการให้กลิ่นหอมเฉพาะตัวที่โดดเด่นที่สกัดได้จากใบโหระพาเท่านั้น ในปัจจุบันพบว่ามีการนำน้ำมันหอมระเหยจากโหระพาไปใช้แต่งกลิ่นในน้ำหอม โลชั่น แชมพูและสบู่ต่างๆ ซึ่งนอกเหนือจากคุณสมบัติในด้านกลิ่นหอมแล้ว โหระพายังมีคุณประโยชน์อย่างอื่น เช่น เป็นแหล่งของเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการป้องกันโรคหัวใจขาดเลือดและโรคมะเร็ง นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของธาตุแคลเซียมอีกด้วย



HP4

ลักษณะสมุนไพร :
โหระพาเป็นพืชล้มลุกที่มีกลิ่นหอม ลำต้นมีขนาดเล็ก มีความสูงเพียง 0.5 – 1 เมตรเท่านั้น โดยลักษณะลำต้นเป็นสี่เหลี่ยมและเป็นพุ่มซึ่งจะมีกิ่งอ่อนสีม่วงออกแดงแตกแขนงออกมา มีขนอ่อนๆ ที่ผิวของลำต้น ใบเป็นใบเดี่ยวลักษณะออกตรงข้ามกัน รูปร่างเป็นรูปทรงไข่หรือรูปทรงรีซึ่งมีความกว้าง 3 – 4 เซนติเมตร และมีความยาว 4 – 6 เซนติเมตร ปลายใบค่อนข้างแหลม โคนใบมีความโค้งมน ลักษณะขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อยห่างๆ ใบมีสีเขียวอมม่วงและมีก้านใบยาว ดอกขนาดเล็กมีสีขาว สีม่วง หรือสีชมพูอ่อนๆ ออกดอกเป็นช่อคล้ายฉัตรที่บริเวณปลายกิ่ง ความยาว 7 – 12 เซนติเมตร แต่ละดอกมีเกสรตัวผู้ 4 อัน รังไข่แต่ละอันจะมีสีม่วง เมล็ดภายในมีสีดำ กลีบดอกโยงเชื่อมติดกัน และมีปลายที่แยกเป็น 2 ส่วน ใบประดับมีสีเขียวอมม่วง ผลมีขนาดเล็กเท่ากับเมล็ดงา มีสีน้ำตาลเข้มและมีกลิ่นหอม

 HP2

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ใบ, ยอดอ่อน, เมล็ด และ ราก
สรรพคุณทางยา :

  1. ใบ แก้ระคายเคืองในลำคอ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน แก้สะอึก ขับลมจากลำไส้ ช่วยย่อยอาหาร แก้จุกเสียดแน่นท้องรักษาโรคกลากเกลื้อน รักษาอาการเหงือกอักเสบเป็นหนอง
  2. ยอดอ่อน แก้ไข้ ปวดศรีษะ ขับเหงื่อ ขับลม ขับเสมหะ ขับพยาธิ แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยเจริญอาหาร
  3. เมล็ด บรรเทาอาการฟกช้ำ แก้โรคตาแดงมีขี้ตามากและต้อตา เป็นยาขับปัสสาวะและยาระบายอ่อนๆ แก้อาการท้องผูก
  4. ราก สมานแผล ช่วยรักษาโรคหนองในเรื้อรัง

 HP3

วิธีการใช้ :

  1. แก้ระคายเคืองในลำคอ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน แก้สะอึก ขับลมจากลำไส้ ช่วยย่อยอาหาร แก้จุกเสียดแน่นท้อง รักษาโรคกลากเกลื้อน รักษาอาการเหงือกอักเสบเป็นหนอง รับประทานใบสดคู่กับอาหาร หรือคั้นน้ำจากใบสด 1ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำอ้อย 2 ช้อน รับประทานวันละ 2 ครั้ง พร้อมกับน้ำอุ่น หรือนำใบแห้งพร้อมขิงสดแช่ในน้ำเดือด รับประทานขณะที่น้ำยังร้อน
  2. แก้ไข้ ปวดศรีษะ ขับเหงื่อ ขับลม ขับเสมหะ ขับพยาธิ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยเจริญอาหาร นำยอดอ่อนต้มกับน้ำรับประทานเป็นชาหรือรับประทานเป็นผักสด
  3. บรรเทาอาการฟกช้ำ แก้โรคตาแดงมีขี้ตามากและต้อตา นำเมล็ดมาบดเป็นผงแล้วทาบริเวณที่เป็น
  4. ยาขับปัสสาวะและยาระบายอ่อนๆ แก้อาการท้องผูก นำเมล็ดแห้ง นำมาต้มหรือแช่น้ำเมื่อถูกน้ำแล้วจะพองตัวเป็นเมือก รับประทานกับขนมหวานโดยผสมกับน้ำหวานและน้ำแข็ง
  5. สมานแผล ช่วยรักษาโรคหนองในเรื้อรัง นำรากสดหรือรากแห้ง นำมาเผาไฟให้เป็นเถ้า นำมาบดให้ละเอียดใช้พอกบริเวณที่เป็นแผลเรื้อรังหรือแผลมีหนองใน

ถิ่นกำเนิด :
โหระพาเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดมาจากแถบทวีปเอเชียและแอฟริกา

 





.