ว่านน้ำ

ชื่อสมุนไพร : ว่านน้ำ
ชื่อเรียกอื่นๆ : ว่านน้ำเล็ก, ฮางคาวผา (เชียงใหม่), ตะไคร้น้ำ (เพชรบุรี), กะส้มชื่น, คาเจี้ยงจี้, ผมผา ส้มชื่น, ฮางคาวบ้าน, ฮางคาวน้ำ (ภาคเหนือ), ทิสีปุตอ, เหล่อโบ่สะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), แป๊ะอะ (ม้ง),ช่านโฟ้ว (เมี่ยน), สำบู่ (ปะหล่อง), จะเคออ้ม, ตะไคร้น้ำ (ขมุ). แปะเชียง (จีนแต้จิ๋ว), สุ่ยชังฝู และ ไป๋ชัง (จีนกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Acorus calamus Linn.
ชื่อสามัญ : Calamus, Calamus Flargoot, Flag Root, Mytle Grass, Myrtle Sedge, Sweet Flag, Sweetflag และ Sweet Sedge
วงศ์ : ACORACEAE

WN2

ว่านน้ำเป็นพืชที่สามารถปลูกไว้เป็นไม้ประดับบ้างเล็กน้อย ผลอ่อนนั้นสามารถรับประทานร่วมกับลาบ และช่อดอกอ่อนๆ จะมีรสหวาน ส่วนรากอ่อนสามารถเคี้ยวเล่นเป็นหมากฝรั่ง ประโยชน์ของเหง้าว่านน้ำสามารถนำมาใช้ไล่ยุงและแมลง ช่วยป้องกันแมลงมากัดกินข้าว และเสื้อผ้าได้ และยังนำมาบดให้เป็นผงใช้โรยรอบๆ ต้นไม้ที่ปลูก เพื่อเป็นยาฆ่าปลวกที่ผิวดินและป้องกันต้นไม้ ส่วนเหง้าสดเมื่อนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยโดยการต้มกลั่นจะได้น้ำมันหอมระเหยร้อยละ 0.17% สามารถนำมาใช้แต่งกลิ่นเครื่องสำอางประเภทสบู่ ผงซักฟอก น้ำหอม ครีม และโลชั่นต่างๆ ได้ นอกจากนี้ตำรายาไทยแผนโบราณระบุว่าว่านน้ำจัดอยู่ใน “พิกัดจตุกาลธาตุ” ซึ่งเป็นตำรับยาที่ประกอบไปด้วยเหง้าว่านน้ำ รากแคแตร รากนมสวรรค์ และรากเจตมูลเพลิงแดง มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงธาตุ แก้ธาตุพิการ แก้ไข้ แก้เสมหะ แก้ลม แก้โลหิตในท้อง แก้อาการจุกเสียดได้ดี

 WN3

ลักษณะสมุนไพร :
ว่านน้ำเป็นพรรณไม้ขนาดเล็ก มีความสูงของต้นประมาณ 50-80 เซนติเมตร และมีเหง้าเจริญไปตามยาวขนานกับพื้นดิน เหง้าเป็นรูปทรงกระบอกค่อนข้างแบน ลักษณะเป็นข้อๆ มองเห็นชัด ผิวนอกเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือสีน้ำตาลอมชมพู มีรากฝอยเป็นเส้นเล็กยาว ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับกันซ้ายขวาแบบทแยงกัน ใบแตกออกมาจากเหง้าเป็นเส้นตรงและยาว ลักษณะของใบเป็นรูปเรียวแหลม ปลายใบแหลม ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1-2 เซนติเมตร และยาวประมาณ 80-110 เซนติเมตร แผ่นใบเรียบ ดอกเป็นช่อ แทงออกมาจากเหง้า ลักษณะของดอกเป็นแท่งทรงกระบอก เป็นสีเหลืองออกเขียว ดอกมีขนาดประมาณ 0.7-1.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร ส่วนกลีบเลี้ยงดอกมี 6 กลีบ ลักษณะเป็นรูปกลม ผลเป็นผลสดขนาดเล็ก ผลมี 2-3 เซลล์ ลักษณะคล้ายลูกข่างหรือปริซึม ปลายบนคล้ายพีรามิด ผลเมื่อสุกจะเป็นสีแดง ภายในมีเมล็ดจำนวนน้อย ลักษณะของเมล็ดเป็นรูปรี

 WN4

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ราก, เหง้า และลำต้น
สรรพคุณทางยา :

  1. ราก แก้ปวดท้อง ธาตุเสีย บำรุงธาตุ แก้จุก ขับลมในลำไส้ ปรุงลงในยาขมต่างๆ ระงับอาการปวดท้อง  แก้บิด เป็นยารักษาบิดของเด็ก รักษาหวัดลงคอและหลอดลมอักเสบ ขับเสมหะอย่างดี ยาธาตุ แก้เส้นกระตุก แก้หืด แก้ปวดศีรษะ แก้ปวดกล้ามและข้อ แก้โรคผิวหนัง
  2. เหง้า  ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้โรคผิวหนัง เป็นยาหอม
  3. ลำต้น  แก้ชัก เป็นยาขมหอม ขับแก๊สในท้อง ทำให้เจริญอาหาร ช่วยการย่อย

 WN1

วิธีการใช้ :

  1. แก้ปวดท้อง ธาตุเสีย บำรุงธาตุ แก้จุก ขับลมในลำไส้ ปรุงลงในยาขมต่างๆ ระงับอาการปวดท้อง แก้บิด เป็นยารักษาบิดของเด็ก รักษาหวัดลงคอและหลอดลมอักเสบ ขับเสมหะอย่างดี ยาธาตุ แก้เส้นกระตุก แก้หืด แก้ปวดศีรษะ แก้ปวดกล้ามและข้อ แก้โรคผิวหนัง นำรากมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน หรือ นำมาตำ ทาแผล
  2. ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้โรคผิวหนัง เป็นยาหอม นำเหง้ามาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  3. แก้ชัก เป็นยาขมหอม ขับแก๊สในท้อง ทำให้เจริญอาหาร ช่วยการย่อย นำต้นมามาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน หรือสกัดน้ำมันหอมระเหยเป็นยาหอม

ถิ่นกำเนิด :
ว่านน้ำเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปยุโรป

 

.

©2024 ThaiHerbal.org | แหล่งเรียนรู้ข้อมูลสมุนไพร WordPress Video Theme by WPEnjoy