บทความสมุนไพรสมุนไพรสำหรับใช้ผลปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้รากปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้ลำต้นปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้ใบปรุงยาสมุนไพรแนะนำ

มะเขือเทศ


ชื่อสมุนไพร : มะเขือเทศ
ชื่อเรียกอื่นๆ : มะเขือ (ทั่วไป), บะเขือส้ม (ภาคเหนือ),มะเขือส้ม (คนเมือง), ตะก่อชิ (กะเหรี่ยง), ตรอบ (สุรินทร์), น้ำเนอ (เชียงใหม่), ตีรอบ (เขมร) และ ฮวงเกีย (จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lycopersicon esculentum Mill.
ชื่อสามัญ : Tomato
วงศ์ : SOLANACEAE
MKT5
มะเขือเทศเป็นพืชล้มลุกที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารต่างๆมากมายทั้งวิตามินและเกลือแร่หลายชนิดที่มีประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งอาหารที่ดีของวิตามินซี วิตามินเค แร่ธาตุโปแตสเซียม และโบรอนอีกด้วย และที่สำคัญยังพบว่ามีสารชนิดหนึ่งซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งมากกว่าสารเบต้าเคโรทีน และสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์เดียวกัน ซึ่งก็คือสารที่เรียกว่าไลโคพีน (lycopene) นั่นเอง โดยสารชนิดนี้พบมากในมะเขือเทศแดงสด แตงโม และฝรั่งขี้นกที่มีเนื้อสีชมพูอมแดง รวมทั้งเป็นสารที่มีคุณสมบัติช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็งในต่อมลูกหมากได้มากถึงร้อยละ 20 เลยทีเดียว ดังนั้นการรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำจึงมีส่วนช่วยลดการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยชะลอความแก่ชรา และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งหรือโรคหัวใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้มะเขือเทศยังมีรสชาติที่อร่อยเนื่องจากในมะเขือเทศมีกรดกลูตามิคที่ช่วยชูรสของอาหารให้อร่อยได้มากขึ้น



 MKT6

ลักษณะสมุนไพร :
มะเขือเทศเป็นพืชล้มลุกที่มีอายุสั้นเพียง 1 ปี และไม่ค่อยสูงมาก สูงเพียง 1-2 เมตร ลำต้นตรงและแข็ง ลักษณะเป็นพุ่มเจริญเติบโตรวดเร็ว มีขนอ่อนๆและมีขนต่อม มีกลิ่นเฉพาะตัว ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกจะออกสลับกัน ใบย่อยมีขนาดไม่เท่ากันแบบหยักฟันเลื่อย บางใบเล็กเร็วหรือบางใบกลมใหญ่ ปลายใบแหลม ความกว้าง 2-5 เซนติเมตร ความยาว 3-10 เซนติเมตร มีขนอ่อนๆ ก้านใบยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ดอกมีสีเหลืองทั้งแบบเป็นช่อซึ่งมีดอกย่อย 6-12 ดอก หรือดอกเดี่ยว ออกที่บริเวณซอกใบ เกสรตัวผู้ 5-6 เกสรเกสรตัวเมีย 1 เกสรจะติดอยู่ภายในหลอดดอก กลีบเลี้ยงมีสีเขียวประมาณ 5-6 กลีบ ก้านดอกยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ผลเป็นผลเดี่ยวมีรูปร่างและสีต่างกันซึ่งมีขนาดประมาณ 3 – 10 เซนติเมตร รูปร่างมีทั้งกลม กลมแบน หรือกลมรี ผิวนอกบางลีบเป็นมัน ผลดิบมีสีเขียว เมื่อสุกจะมีสีเหลือง สีส้ม หรือสีแดง เนื้อภายในฉ่ำด้วยน้ำ มีรสเปรี้ยว มีเมล็ดรูปไข่สีน้ำตาลอ่อนเป็นจำนวนมาก ภายใน 1 ผลมีประมาณ 250 เมล็ด

MKT2

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ราก, ลำต้น, ใบ และผล
สรรพคุณทางยา :

  1. ราก ล้างแผลและแก้ปวดฟัน
  2. ลำต้น แก้อาการปวดฟัน
  3. ใบ รักษาโรคผิวหนังที่โดนแดดเผา
  4. ผล ช่วยดับกระหาย เจริญอาหาร ช่วยย่อยอาหาร บำรุงกระเพาะอาหารและลำไส้ให้ทำงานได้ดี ช่วยขับพิษ เป็นยาระบายอ่อนๆ แก้ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ถูกน้ำกรด ถูกแมงกะพรุนไฟ ฟอกเลือด รักษาหลอดลมอักเสบ ช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมาก ลดรอยเหี่ยวย่นตามใบหน้า

MKT4

วิธีการใช้ :

  1. ล้างแผลและแก้ปวดฟัน นำรากมาต้มกับน้ำ รับประทานแก้อาการปวดฟัน และใช้ในการล้างแผล
  2. แก้อาการปวดฟัน นำลำต้นมาต้มกับน้ำ รับประทานแก้อาการปวดฟัน
  3.  รักษาโรคผิวหนังที่โดนแดดเผา นำใบสดๆ มาตำสามารถใช้เป็นยาทา หรือพอกแก้ผิวหนังถูกแดดเผา
  4. ลดรอยเหี่ยวย่นตามใบหน้า นำผลสดมาฝานบางๆ แล้วนำมาแปะไว้บนใบหน้า วางไว้ประมาณ 15-20 นาที โดยให้ความชุ่มชื้นซึมลงบนหน้า                                                                            
  5. แก้ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ถูกน้ำกรด ถูกแมงกะพรุนไฟ นำผลสดมาฝานบางๆ แล้วนำวางบริเวณแผลที่เป็น
  6. ช่วยดับกระหาย เจริญอาหาร ช่วยย่อยอาหาร บำรุงกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยขับพิษ เป็นยาระบายอ่อนๆ ฟอกเลือด รักษาหลอดลมอักเสบ ช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมาก นำผลสดมารับประทาน หรือคั้นน้ำกินสดๆ หรือปั้นเป็นน้ำผลไม้

 MKT3

MKT7

ถิ่นกำเนิด :
มะเขือเทศเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดมาจากแถบอเมริกาใต้และประเทศเม็กซิโก

 





.