บทความสมุนไพรสมุนไพรสำหรับใช้ผลปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้รากปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้ลำต้นปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้เมล็ดปรุงยา

มะขามป้อม


ชื่อสมุนไพร : มะขามป้อม
ชื่อเรียกอื่นๆ : กำทวด (ราชบุรี), กันโตด (เขมร-จันทบุรี), สันยาส่า และ มั่งลู (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Phyllanthus emblica L.
ชื่อสามัญ : Indian Gooseberry
วงศ์ : EUPHORBIACEAE



 ขามป้อม1

มะขามป้อมเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงและปริมาณวิตามินซียังคงสภาพเดิมแม้ว่าจะผ่านการอบแห้งหรือเก็บในสภาวะเย็นนานๆ เนื่องจากมะขามป้อมมีสารพวกแทนนินและโพลี่ฟีนอลซึ่งเป็นสารที่ป้องกันการเกิดออกซิไดซ์ของวิตามินซีนั่นเอง ดังนั้นการรับประทานมะขามป้อมเพียง 1 ผล ก็จะได้รับวิตามินซีเพียงพอสำหรับร่างกายใน 1 วัน นอกเหนือจากวิตามินซีแล้ว มะขามป้อมยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบีสาม และยังมีสารอาหารจำพวก แคลเซียม คาร์โบไฮเดรต ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ทั้งยังมีสรรพคุณทางยามากมายตั้งแต่แก้หวัด แก้ไอ ลดคอเลสเตอรอล ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร แก้ท้องเสีย ขับปัสสาวะ เป็นต้น แต่ที่น่าสนใจ คือ มีฤทธิ์รักษาอาการตับอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และในปัจจุบันวงการแพทย์สมัยใหม่ได้คิดค้นนวัตกรรมสารสกัดจากมะขามป้อมในรูปของยาแคปซูล เนื่องจากมีสารจำพวกวิตามินและแคลเซียมอยู่เป็นจำนวณมาก

ขามป้อม3

ลักษณะสมุนไพร :
มะขามป้อมเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงเพียง 8-12 เมตร ลำต้นไม่ตรงมีลักษณะคดงอ เปลือกนอกมีสีเทาอมน้ำตาล แตกเป็นร่องตามยาว กิ่งมีความแข็งและเหนียว ผิวค่อนข้างเรียบ เปลือกในมีสีชมพู ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับในระนาบเดียวกัน มีลักษณะคล้ายใบประกอบคล้ายใบมะขาม รูปขอบขนานติดเรียงสลับ ความกว้าง 1- 5 มม. ความยาว 4-15 มม. ปลายใบแหลม โคนใบโค้งมน ขอบใบและแผ่นใบมีลักษณะเรียบ มีสีเขียวอ่อน ใบสั้นมากเรียงชิดกัน เส้นแขนงใบไม่ชัดเจน ดอกสีเหลืองอ่อนออกเขียวออกเป็นช่อเล็กๆแยกเพศ แต่อยู่บนกิ่งหรือต้นเดียวกัน ออกตามง่ามใบ 3-5 ดอกตามปลายกิ่ง กลีบดอกมี 5-6 กลีบ มีเกสรเพศผู้สั้นๆ 3-5 อัน ก้านดอกสั้น กลีบเลี้ยง 6 กลีบ ผลมีรูปทรงกลมมีเนื้อหนาขนาด 1.3-2 ซม. เป็นพู 6 พู และผิวเรียบ ผลอ่อนมีสีเขียวอมเหลือง ผลแก่มีสีเหลืองออกน้ำตาล มีเส้นริ้วๆ ตามยาว สังเกตได้ 6 เส้น เนื้อผลรับประทานได้มีรสฝาดเปรี้ยว ขมและอมหวาน เปลือกหุ้มเมล็ดแข็งมี 6 เส้น เมล็ดรูปรีมี 6 เมล็ด

 ขามป้อม2

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ราก, เปลือกลำต้น, เมล็ด, ปมที่ก้าน และ ผล
สรรพคุณทางยา :

  1. ราก แก้ร้อนใน แก้ท้องเสีย แก้โรคเรื้อน ลดความดันโลหิต แก้พิษตะขาบ
  2. เปลือกลำต้น แก้โรคบิดและฟกซ้ำ
  3. เมล็ด แก้คัน แก้หืด รักษาโรคเบาหวาน หอบหืด หลอดลมอักเสบ รักษาโรคตา แก้คลื่นไส้ อาเจียน
  4. ปมก้าน แก้ปวดฟัน แก้ปวดท้องน้อย แก้ปวดเมื่อยกระดูก แก้ไอ
  5. ผล แก้กระหายน้ำ แก้หวัด แก้ไอ ละลายเสมหะ ขับปัสสาวะ ยาระบาย รักษาคอตีบ รักษาเลือดออกตามไรฟันยาถ่ายพยาธิแก้ท้องเสีย โรคหนองใน รักษาโรคบิด ใช้ล้างตา แก้ตาแดง เยื่อบุตาอักเสบ แก้ตกเลือด

 ขามป้อม4

วิธีการใช้ :

  1. แก้ร้อนใน แก้ท้องเสีย แก้โรคเรื้อน ลดความดันโลหิต นำรากแห้งมาต้มกับน้ำ รับประทานน้ำต้มราก
  2. แก้พิษตะขาบ นำรากสดมาพอกแผลเมื่อโดนตะขาบกัด
  3. แก้โรคบิดและฟกซ้ำ นำเปลือกลำต้นมาต้มกับน้ำ รับประทานน้ำต้มเปลือก
  4. แก้คัน แก้หืด นำเมล็ดมาเผาไฟจนเป็นขี้เถ้าแล้วผสมกับน้ำมันพืชนำมาทาบริเวณที่คัน
  5. รักษาโรคเบาหวาน หอบหืด หลอดลมอักเสบ รักษาโรคตา แก้คลื่นไส้ อาเจียน นำเมล็ดมาตำเป็นผงแล้วชงกับน้ำร้อน ดื่มรับประทาน
  6. แก้ปวดฟัน นำปมก้านประมาณ 10-30 อัน มาต้มกับน้ำแล้วใช้อม
  7. แก้ปวดท้องน้อย แก้ปวดเมื่อยกระดูก แก้ไอ นำปมก้านมาต้มกับน้ำแล้วดื่มน้ำต้ม
  8. แก้ท้องเสีย โรคหนองใน รักษาโรคบิด ใช้ล้างตา แก้ตาแดง เยื่อบุตาอักเสบ แก้ตกเลือด นำผลแห้งมาบด ชงน้ำร้อนแบบชาดื่ม
  9. แก้กระหายน้ำ แก้หวัด แก้ไอ ละลายเสมหะ ขับปัสสาวะ ยาระบาย รักษาคอตีบ รักษาเลือดออกตามไรฟัน รับประทานผลสดเป็นผลไม้
  10. ยาถ่ายพยาธิ นำผลสดมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำผึ้งแล้วรับประทาน

 ขามป้อม5

ถิ่นกำเนิด :
มะขามป้อมเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 





.