บทความสมุนไพรสมุนไพรสำหรับใช้ดอกปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้ผลปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้รากปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้ลำต้นปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้เมล็ดปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้ใบปรุงยา

พิลังกาสา


ชื่อสมุนไพร : พิลังกาสา
ชื่อเรียกอื่นๆ : ผักจำ, ผักจ้ำแดง (เชียงใหม่, เชียงราย), ตีนจำ (เลย), ลังพิสา (ตราด), ทุรังกาสา (ชุมพร), ราม (สงขลา), ปือนา (มลายู-นราธิวาส), พิลังกาสา (ทั่วไป), จิงจ้ำ, จ้ำก้อง, มะจ้ำใหญ่, ตาปลาราม, ตาเป็ด, ทุกังสา และ มาตาอาแย
ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Ardisia polycephala  Wall.
ชื่อสามัญ : Ardisia Polycephala
วงศ์ :MYRSINACEAE
PL4
พิลังกาสาเป็นพืชที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับตามสวนสาธารณะทั่วไป มีดอกสวยจนนึกว่าเป็นไม้ประดับธรรมดาไม่มีคุณค่าใดๆ แต่ความจริงแล้วไม้ประดับต้นนี้มีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรซึ่งใช้ได้ตั้งแต่ราก ลำต้น เปลือก ใบ ดอก และผล เท่ากับได้ไม้ดอกปลูกประดับไว้แต่เป็นหม้อยาใบใหญ่ใกล้ตัวเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสมบัติชั้นเลิศที่มีความโดดเด่นในการป้องกันและรักษาโรคมะเร็งในตับได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งช่วยบำรุงตับ ฟื้นฟูตับแข็ง แก้น้ำเหลืองเสียง แก้โรคเรื้อน และแก้กามโรคได้เป็นอย่างดี การเพาะปลูกนั้นก็ทำได้โดยง่ายอีกทั้งโตเร็ว สามารถปลูกได้กับดินทั่วๆ ไป ขั้นตอนการปลูกไม่ยุ่งยากหากรดน้ำและใส่ปุ๋ยสม่ำเสมอ ส่วนใหญ่การขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด นอกจากนี้องค์ประกอบภายในยังมีสารเคมีที่สำคัญก็คือ Ilexol, Rapanone และ Syringic Acid ซึ่งออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาคือสามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย โดยออกฤทธิ์เหมือนฮีสตามีน ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัว รักษามาลาเรีย แก้ท้องเสีย รักษาโรคเรื้อน และส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อรา Aspergillus ต้านการจับตัวของเกล็ดเลือดอีกด้วย



PL6

ลักษณะสมุนไพร :
พิลังกาสาเป็นไม้ยืนต้นขนาดย่อม สูงไม่มากเพียง 2-3 เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านสาขาออกรอบต้น ใบเป็นใบเดี่ยว ออกสลับกันเป็นคู่ ๆ ตามข้อต้น ลักษณะเป็นรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ส่วนขอบใบเรียบ แผ่นใบเป็นสีเขียวมีมัน ลักษณะหนาและใหญ่ ยอดอ่อนเป็นสีแดง ดอกเป็นสีเหลืองนวล หรือเป็นสีชมพูอมขาว หรือสีขาวแกมชมพู ออกเป็นช่อตามบริเวณปลายกิ่ง หรือตามส่วนของยอ เมื่อดอกบานเต็มที่จะมี 5 แฉก คล้ายรูปดาว ผลโตเท่าขนาดเม็ดนุ่น มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5 เซนติเมตร ออกผลเป็นกระจุกมีก้านช่อยาวห้อยย้อยลง และก้านผลยาวเรียงสลับรอบก้านช่อ ผลอ่อนจะเป็นสีแดง เมื่อแก่หรือสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงดำ

PL3

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ราก, ใบ, ดอก, เมล็ด, ต้น และ ผล
สรรพคุณทางยา :

  1. รากแก้กามโรค หนองใน พอกปิดแผล ถอนพิษงู
  2. ใบ รักษามะเร็งตับ แก้โรคตับพิการ แก้ท้องเสีย แก้ไอ แก้ลม
  3. ดอก ฆ่าเชื้อโรค แก้พยาธิ
  4. เมล็ด แก้ลมพิษ
  5. ต้น  แก้โรคผิวหนัง โรคเรื้อน
  6. ผล ช่วยบำรุงโลหิตเป็นยาแก้ไข้ ช่วยแก้โรคระดูของสตรี

 PL2

PL5

วิธีการใช้ :

  1. แก้กามโรค หนองใน ถอนพิษงู นำรากมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  2. พอกปิดแผล นำรากมาตำละเอียด แล้วพอกปิดแผล
  3. รักษามะเร็งตับ แก้โรคตับพิการ แก้ท้องเสีย แก้ไอ แก้ลม นำใบมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  4. ฆ่าเชื้อโรค แก้พยาธิ นำดอกมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  5. แก้ลมพิษ นำเมล็ดตากแห้งแล้วต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  6. แก้โรคผิวหนัง โรคเรื้อน นำต้นแห้งมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  7. ช่วยบำรุงโลหิต เป็นยาแก้ไข้ นำผลรับประทานสด
  8. ช่วยแก้โรคระดูของสตรี นำผลสุกมาตากแห้งบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้ง แล้วปั้นเป็นลูกกลอนกิน

PL1
ถิ่นกำเนิด :
พิลังกาสาเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 





.