ชื่อสมุนไพร : ฝอยทอง
ชื่อเรียกอื่นๆ : ฝอยไหม (นครราชสีมา), ผักไหม (อุดรธานี), ซิกคิบ่อ, ทูโพเคาะกี่ (กะเหรี่ยงเชียงใหม่), เครือคำ (ไทใหญ่, ขมุ), บ่ะเครือคำ (ลั้วะ), กิมซีเช่า, โท้วซี (จีนแต้จิ๋ว), ทู่ซือ และ ทู่ซือจื่อ (จีนกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cuscuta chinensis Lam.
ชื่อสามัญ : Dodder
วงศ์ : CUSCUTACEAE
ฝอยทองจัดเป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด จัดเป็นพรรณไม้ที่ต้องการความชื้นในปริมาณมาก มักพบขึ้นตามบริเวณพุ่มไม้ที่ชุ่มชื้นทั่วไป ตามสวน เรือนเพาะชำ ริมถนน พื้นที่รกร้างทั่วไป ในวงศ์เดียวกันยังมีฝอยทองอีกหลายชนิด คือ ฝอยทองยุโรป หรือในภาษาจีนเรียกว่า “โอวโจทู่ซือ” ฝอยทองดอกใหญ่ หรือในภาษาจีนกลางเรียกว่า “ต้าฮวาทู่ซือ” ฝอยทองใหญ่ หรือในภาษาจีนเรียกว่า “กิมเต็งติ๊ง” และ “ต้าทูซือ” ซึ่งในแต่ละนิดจะมีสรรพคุณที่ใกล้เคียงกัน และสามารถนำมาใช้แทนกันได้ ประโยชน์ของฝอยทอง คือ ลำต้นนำมาต้มหรือลวกรับประทานเป็นอาหาร ใช้เป็นผักจิ้มกับน้ำพริก ใช้ยำใส่มะเขือ หรือนำมาชุบแป้งทอดรับประทานร่วมกับน้ำพริกกะปิ
ลักษณะสมุนไพร :
ฝอยทองเป็นพรรณไม้จำพวกกาฝากขึ้นเกาะ ดูดน้ำกินจากต้นไม้อื่น มีอายุประมาณ 1 ปี ลำต้นมีลักษณะเป็นเส้นกลม อ่อน แตกกิ่งก้านสาขามากเป็นเส้นยาว มีสีเหลืองทอง ยาวประมาณ 100 เซนติเมตร และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 1 เซนติเมตร ลักษณะของใบเป็นเกล็ดขนาดเล็กๆ รูปสามเหลี่ยม มีจำนวนไม่มาก ออกดอกเป็นช่อ ดอกย่อยมีจำนวนมาก ไม่มีก้าน มีกลีบเลี้ยงขนาดเล็ก รูปกลมรี ดอกมีขนาดเล็ก ดอกเป็นสีขาว กลีบดอกยาวประมาณ 2-3 มิลลิเมตร กลีบดอกที่โคนเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย ส่วนปลายกลีบดอกมน แยกออกเป็น 5 แฉก กลางดอกมีเกสรเพศผู้ 5 อัน และเกสรเพศเมีย 2 อัน ลักษณะของผลเป็นรูปกลมแบน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 มิลลิเมตร เป็นสีเทา ภายในผลมีเมล็ดประมาณ 2-4 เมล็ด ลักษณะของเมล็ดค่อนข้างกลมรี มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-1.5 มิลลิเมตร เมล็ดเป็นสีเหลืองอมเทา ผิวเมล็ดหยาบ
ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ทั้งต้น และ เมล็ด
สรรพคุณทางยา :
- ทั้งต้น แก้อาการร่างกายอ่อนเพลีย ยาแก้โรคดีซ่าน และแก้พิษ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ตาแดงหรือเจ็บตา ยาแก้อาเจียนเป็นเลือด ไอเป็นเลือด เลือดกำเดาไหล อุจจาระเป็นเลือด ตกเลือด ยาแก้บิด รักษาลำไส้อักเสบ เป็นบิดแบคทีเรีย ยาถ่ายพยาธิ ช่วยแก้ปัสสาวะขัด แก้อาการปัสสาวะกะปริบกะปรอย ช่วยรักษาระดูขาวตกมากผิดปกติ และน้ำกามเคลื่อน แก้ผดผื่นคัน ผดผื่นคันจากอากาศร้อน แผลเรื้อรัง และใช้ห้ามเลือด แก้อาการตัวบวม
- เมล็ด บำรุงกำลัง ช่วยลดไขมันในเลือด ช่วยทำให้ตาสว่าง แก้ตามัว แก้อาการเวียนศีรษะ ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ ยาขับลม ขับเหงื่อ แก้ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ช่วยรักษาระดูขาวตกมากผิดปกติ ช่วยบำรุงน้ำอสุจิในเพศชาย แก้สมรรถภาพทางเพศชายเสื่อม แก้น้ำกามเคลื่อน ยาบำรุงตับ บำรุงไต
วิธีการใช้ :
- แก้อาการร่างกายอ่อนเพลีย นำลำต้นแห้งประมาณ 10-12 กรัม นำมาต้มกับน้ำผสมกับเหล้าหรือน้ำตาลทรายแดงกินเป็นยา
- ยาแก้โรคดีซ่าน และแก้พิษ นำลำต้นนำมาต้มกับน้ำอาบรักษาอาการตัวเหลืองจากโรคดีซ่าน
- แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ตาแดงหรือเจ็บตา นำลำต้นสด นำมาตำให้ละเอียดคั้นเอาน้ำ ใช้เป็นยาทารอบๆ ขอบตา
- ยาแก้อาเจียนเป็นเลือด ไอเป็นเลือด เลือดกำเดาไหล อุจจาระเป็นเลือด ตกเลือด ยาแก้บิด รักษาลำไส้อักเสบ เป็นบิดแบคทีเรีย แก้อาการตัวบวม นำลำต้นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
- ช่วยแก้ปัสสาวะขัด นำลำต้นสดประมาณ 1 กำมือ นำมาต้มกับเหง้ากูไฉ่สด ประมาณ 60 กรัม แล้วนำมาใช้ล้างหน้าท้องน้อย
- แก้อาการปัสสาวะกะปริบกะปรอย ช่วยรักษาระดูขาวตกมากผิดปกติ และน้ำกามเคลื่อน นำลำต้นแห้งประมาณ 10-12 กรัม นำมาต้มกับน้ำผสมกับเหล้าหรือน้ำตาลทรายแดงกินเป็นยา
- ผดผื่นคัน ผดผื่นคันจากอากาศร้อน แผลเรื้อรัง และใช้ห้ามเลือด นำลำต้นนำมาตำให้ละเอียด คั้นเอาน้ำทาหรือพอกบริเวณที่เป็น
- บำรุงกำลัง ช่วยลดไขมันในเลือด ช่วยทำให้ตาสว่าง แก้ตามัว แก้อาการเวียนศีรษะ ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ ยาขับลม ขับเหงื่อ แก้ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ช่วยรักษาระดูขาวตกมากผิดปกติ ช่วยบำรุงน้ำอสุจิในเพศชาย แก้สมรรถภาพทางเพศชายเสื่อม แก้น้ำกามเคลื่อน ยาบำรุงตับ บำรุงไต นำเมล็ดแห้งประมาณ 10-15 กรัม นำมาต้มกับน้ำกิน หรือนำมาบดให้ละเอียดทำเป็นยาเม็ดหรือทำเป็นยาผงรับประทาน
ถิ่นกำเนิด :
ฝอยทองเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
.