ชื่อสมุนไพร : บุนนาค
ชื่อเรียกอื่นๆ : สารภีดอย (เชียงใหม่), ก๊าก่อ, ก้ำก่อ (แม่ฮ่องสอน), ปะนาคอ, ประนาคอ (ปัตตานี), นาคบุตร, นากบุต, รากบุค (ภาคใต้) และ ต้นนาค
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mesua ferrea L.
ชื่อสามัญ : Iron Wood และ Indian Rose Chestnut
วงศ์ : GUTTIFERAE
บุนนาคเป็นพันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดพิจิตร คนไทยโบราณเชื่อว่าหากปลูกเป็นไม้ประจำบ้าน จะช่วยทำให้เป็นผู้มีความประเสริฐและมีบุญ และคำว่านาคยังหมายถึง พญานาคที่มีแสนยานุภาพที่จะช่วยปกป้องคุ้มครองภัย เนื่องจากใบของบุนนาคสามารถช่วยรักษาพิษต่างๆ ได้ โดยจะนิยมปลูกต้นบุนนาคไว้ทางทิศตะวันตกของบ้าน พืชชนิดนี้พบได้มากในป่าดิบชื้น ตามลำธารหรือริมห้วย โดยยอดอ่อนสามารถนำมาใช้เป็นผักสดหรือจะนำมายำหรือแกงก็ได้เช่นกัน ส่วนดอกสามารถนำมาใช้กลั่นเป็นน้ำมันหอมระเหยนำมาใช้ในการอบเครื่องหอมได้เป็นอย่างดีและยังใช้ในการแต่งกลิ่นสบู่ อีกทั้งเปลือกลำต้นนำมาบดเป็นผงใช้แต่งกลิ่นธูป นอกจากนี้เมล็ดมีน้ำมันที่กลั่นได้ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางต่างๆ และนำมาใช้จุดตะเกียงให้มีกลิ่นหอมอีกด้วย
ลักษณะสมุนไพร :
บุนนาคเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 15-25 เมตร ทรงยอดพุ่มทึบและแคบ ไม้ไม่ผลัด เนื้อไม้แข็ง กิ่งก้านเรียวเล็กห้อยลง เปลือกต้นมีสีน้ำตาลเข้ม มีรอยแตกตื้นๆ น้ำยางสีเหลืองอ่อนเล็กน้อย ใบเป็นใบเดี่ยวออกตรงข้ามกัน รูปหอก ปลายใบเรียวแหลม คล้ายใบมะปราง โคนใบสอบ แผ่นใบหนา ผิวใบเรียบเกลี้ยง ท้องใบมีคราบขาวปกคลุมอยู่ ใบอ่อนจะมีสีชมพูออกแดง ส่วนใบแก่ด้านบนจะมีสีเขียวเข้ม มีเส้นใบข้างมากแต่ไม่เห็นชัด ใบห้อยลงเป็นพู่ ดอกเป็นดอกเดี่ยวหรือดอกคู่ตามซอกใบหรือปลายกิ่ง กลีบดอกมีสีขาวจนถึงสีเหลืองอ่อน กลีบดอกมี 5 กลีบซ้อนกัน ลักษณะของกลีบดอกเป็นรูปไข่หัวกลับ ปลายบานและเว้า โคนสอบ ปลายกลีบย่นเล็กน้อย ดอกสมบูรณ์เพศ มีเกสรตัวผู้มากกว่า 50 อัน มีสีเหลืองส้มและเป็นฝอย ส่วนอับเรณูเป็นสีส้ม มีรังไข่ 2 ช่อง กลีบเลี้ยง 4 กลีบ แยกเป็น 2 วง ลักษณะกลม ผลเป็นรูปไข่ ส่วนปลายโค้งแหลม ปลายไม่แตก เปลือกผลมีรอยด่างสีน้ำตาล ผลมีสีส้มแก่หรือมีสีม่วงน้ำตาล มีเปลือกเป็นเส้นใยห่อหุ้มอยู่ และมีหยดยางเหนียงที่ฐาน ภายในผลมีเมล็ด 1-4 เมล็ด ส่วนเมล็ดแบนและแข็ง มีสีน้ำตาลเข้ม
ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ดอกแห้ง, ผล, ใบ, แก่น, ราก, เปลือก และ กระพี้
สรรพคุณทางยา :
- ดอกแห้ง บำรุงหัวใจ เป็นยาขับเสมหะบำรุงโลหิต แก้ร้อนกระสับกระส่าย แก้ลมกองละเอียด แก้หน้ามืดวิงเวียนใจสั่น อ่อนเพลีย หัวใจหวิว ชูกำลัง
- ผล ขับเหงื่อ
- ใบ รักษาบาดแผลสด แก้พิษงู
- แก่น แก้เลือดออกตามไรฟัน
- ราก ขับลมในลำไส้
- เปลือก ฟอกน้ำเหลือง กระจายหนอง
- กระพี้ แก้เสมหะในคอ
วิธีการใช้ :
- บำรุงหัวใจ เป็นยาขับเสมหะบำรุงโลหิต แก้ร้อนกระสับกระส่าย แก้ลมกองละเอียด แก้หน้ามืดวิงเวียนใจสั่น อ่อนเพลีย หัวใจหวิว ชูกำลัง นำดอกแห้งมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
- ขับเหงื่อ ฝาดสมาน นำผลมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
- รักษาบาดแผลสด แก้พิษงู นำใบมาตำแล้วพอกบริเวณแผล
- แก้เลือดออกตามไรฟัน นำแก่นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
- ขับลมในลำไส้ นำรากมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
- ฟอกน้ำเหลือง กระจายหนอง นำเปลือกมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
- แก้เสมหะในคอ นำกระพี้มาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
ถิ่นกำเนิด :
บุนนาคเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย ศรีลังกา อินโดจีน พม่า ไทย คาบสมุทรมาเลเซีย และสิงค์โปร์
.