นางพญาเสือโคร่ง

ชื่อสมุนไพร : นางพญาเสือโคร่ง
ชื่อเรียกอื่นๆ : ซากุระดอย (เชียงใหม่), ฉวีวรรณ ชมพูภูพิงค์ (ภาคเหนือ), คัวเคาะ, เส่คาแว่, เส่แผ่, แส่ลาแหล (กะเหรี่ยงเชียงใหม่) และ ยาแก่ะ (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Prunus cerasoides D. Don
ชื่อสามัญ : Wild Himalayan Cherry และ Sour Cherry
วงศ์ : ROSACEAE
NPS1
นางพญาเสือโคร่งเป็นพรรณไม้ชนิดนี้ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด มีเขตการกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติทางตอนใต้ของประเทศจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น โดยพบขึ้นในป่าที่ระดับความสูงประมาณ 500-1,500 เมตร จากระดับน้ำทะเล ส่วนในประเทศไทยพบขึ้นตามภูเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000-2,000 เมตร เช่น บนดอยเชียงดาว ดอยอินทนนท์ ฯลฯ นิยมใช้ปลูกเป็นไม้ประดับเนื่องจากออกดอกดกและมีความสวยงาม และยังใช้ปลูกเป็นไม้เบิกนำ เนื่องจากเป็นไม้โตเร็ว ทนทานต่อไฟป่า และต้องการแสงมาก จึงเหมาะนำไปปลูกเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าดิบเขาในพื้นที่ต้นน้ำ หรือปลูกในพื้นที่ที่ผ่านการทำไร่เลื่อนลอยบนพื้นที่สูง แต่ไม่ควรนำไปปลูกบนพื้นที่ที่มีลมพัด เพราะจะทำให้กิ่งก้านหักได้ง่าย ผลของนางพญาเสือโคร่งมีรสเปรี้ยว สามารถนำมารับประทานได้ แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก และไม่ควรรับประทานมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ท้องเสียได้ เนื้อไม้อ่อน สามารถนำมาใช้ทำด้ามเครื่องมือการเกษตรได้ ต้นนางพญาเสือโคร่ง ได้รับฉายาว่า “ซากุระเมืองไทย” เนื่องจากมีลักษณะคล้ายซากุระ และในประเทศญี่ปุ่นจะเรียกดอกไม้ของพรรณไม้ชนิดนี้ว่า “ฮิมาลายาซากุระ”

 NPS2

ลักษณะสมุนไพร :
นางพญาเสือโคร่งเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ลำต้นมีความสูงประมาณ 10-15 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มกลมโปร่ง เปลือกต้นเรียบเป็นมัน สีเหลือบน้ำตาล เยื่อผิวบาง หลุดลอกง่าย ตามกิ่งอ่อนมีขนละเอียด ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบกลมหรือสอบแคบ ส่วนขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อยละเอียด ใบมีขนาดกว้าประมาณ 3-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 5-12 เซนติเมตร ปลายก้านใบมีต่อมประมาณ 2-4 ต่อม หูใบแตกแขนงเป็นรูปคล้ายเขากวางหรือคล้ายเป็นริ้วเล็กๆ ใบร่วงได้ง่าย ออกดอกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและปลายกิ่ง ก้านดอกยาวประมาณ 0.7-2 เซนติเมตร ดอกย่อยมีจำนวนมาก ดอกนางพญาเสือโคร่งจะมีหลายเฉดสี ทั้งสีชมพูอ่อน สีชมพูเข้ม สีชมพูแดง สีแดง หรือสีขาว แต่ที่หาได้ยากที่สุดคือสีขาว ขอบริ้วประดับจักไม่เป็นระเบียบ กลีบเลี้ยงติดกันเป็นรูปกรวย กลีบดอกมี 5 กลีบ เมื่อดอกได้รับการผสมจะติดเป็นผล ซึ่งจะเป็นผลในช่วงประมาณเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม โดยผลจะเป็นผลสด ลักษณะของผลเป็นรูปขอบขนาน รูปกระสวย รูปไข่หรือกลม ยาวประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร ฉ่ำน้ำ ผิวผลเกลี้ยง ผลสุกเป็นสีแดงแบบลูกเชอร์รี่ มีรสเปรี้ยว

 NPS4

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : เปลือกต้น
สรรพคุณทางยา :

  1. เปลือกต้น แก้ไอ ลดน้ำมูก แก้อาการคัดจมูก รักษาอาการหนาวสั่นจากอาการไข้ ยาแก้เลือดกำเดาไหล ยาแก้อาการท้องเสีย แก้ฟกช้ำ แก้ข้อแพลง ปวดข้อ

 NPS3

วิธีการใช้ :                                     

  1. ยาแก้ไอ ลดน้ำมูก แก้อาการคัดจมูก รักษาอาการหนาวสั่นจากอาการไข้ ยาแก้เลือดกำเดาไหล  ยาแก้อาการท้องเสีย นำเปลือกต้นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  2. แก้ฟกช้ำ แก้ข้อแพลง ปวดข้อ นำเปลือกต้นใช้ตำคั้นเอาน้ำทาหรือพอกแก้ฟกช้ำ แก้ข้อแพลง ปวดข้อ

ถิ่นกำเนิด :
นางพญาเสือโคร่งเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

.

©2024 ThaiHerbal.org | แหล่งเรียนรู้ข้อมูลสมุนไพร WordPress Video Theme by WPEnjoy