ชื่อสมุนไพร : ติ่งตั่ง
ชื่อเรียกอื่นๆ : ดอกโรค (เลย), งวงชุม (ของแก่น), มันเครือ (นครราชสีมา), ดวงสุ่ม (อุบลราชธานี), เถาวัลย์นวล (ราชบุรี), มันแดง (กาญจนบุรี), ประโยค, ดอกประโยค (ตราด), งวงสุ่มขาว, เมี่ยงชะนวนไฟ, สังขยาขาว (พิษณุโลก,สงขลา), ตะกรูด (นครศรีธรรมราช), กรูด (สุราษฎร์ธานี), ติ่งตั่งตัวผู้ (ภาคเหนือ), งวงสุ่ม, ฮวงสุ่ม (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), ข้าวตอกแตก (ภาคกลาง), หน่วยสุด (ภาคใต้), เครือตีนตั่ง (คนเมือง), เครืองวงสุ่ม, เถาวัลย์ชนวน, ตะกรุด, สะแกวัลย์ และ หมันเครือ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Calycopteris floribunda (Roxb.) Lam.
ชื่อสามัญ : –
วงศ์ : COMBRETACEAE
ติ่งตั่งจัดเป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง และปักชำกิ่ง เจริญเติบโตได้ในดินทุกประเภท ชอบแสงแดดจัด น้ำปานกลาง เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศอินเดีย ประเทศจีนตอนใต้ และทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับในประเทศไทยสามารถพบได้ทุกภาคตามป่าเบญจพรรณและตามป่าดิบแล้งทั่วไป สำหรับประโยชน์ของติ่งตั่งมีมากมาย นั่นก็คือ ลำต้นสามารถนำมาใช้ทำเป็นเครื่องจักสานได้ และ เครือติ่งตั่งมีเนื้อไม้เหนียว ก็สามารถนำมาใช้ทำขอบกระบวยวิดน้ำสำหรับตักน้ำรดน้ำผักหรือขอบเครื่องจักสาน ทำด้ามมีด เครื่องใช้สอยได้อีกด้วย อีกทั้งพืชชนิดนี้ยังมีสรรพคุณทางยาโดยดอกติ่งตั่งมีสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่มีฤทธิ์ในการต้านเนื้องอก และดอกมักจะออกในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมของทุกปี
ลักษณะสมุนไพร :
ติ่งตั่งเป็นไม้พุ่มเลื้อยขนาดใหญ่หรือไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็งขนาดใหญ่ สูงได้ประมาณ 1-5 เมตร เปลือกเป็นสีน้ำตาลมีขนปกคลุม ตามกิ่งอ่อนเป็นสันสี่เหลี่ยม มีขนสีน้ำตาลแกมแดงขึ้นปกคลุม ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามหรือกึ่งตรงข้าม ลักษณะของใบเป็นรูปรีหรือรูปไข่ ปลายใบสอบแหลม โคนใบมน ส่วนขอบใบเรียบมีลักษณะเป็นคลื่น ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2-7 เซนติเมตร และยาวประมาณ 6-17 เซนติเมตร หลังใบด้านบนมีขนนุ่มหนาแน่นเมื่อยังอ่อนอยู่ ส่วนท้องใบมีขนสีน้ำตาลอ่อนหรือสีน้ำตาลแกมเหลืองขึ้นหนาแน่น ออกดอกเป็นช่อขนาดใหญ่แบบแยกแขนง โดยจะออกที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยมีจำนวนมาก ดอกย่อยเป็นสีเขียวแกมเหลือง มีกลีบรองดอก 5 กลีบ โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายเป็นรูปถ้วย มี 5 แฉก ข้างในมีขน ส่วนกลีบดอกไม่มี ดอกมีเกสรเพศผู้ 10 อัน เรียงกันเป็น 2 วง วงละ 5 อัน ลักษณะของผลเป็นรูปทรงรีหรือรูปกระสวย มีสันยาว 5 สัน ที่ปลายมีกลีบรองดอกที่เจริญเป็นปีก 5 ปีก ภายในผลมีเมล็ด 1 เมล็ด
ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ราก, ใบ, เปลือกต้น และ ลำต้น
สรรพคุณทางยา :
- ราก แก้พิษไข้เด็ก แก้กามโรค ยาแก้พิษงู แก้อาการปวดเมื่อย
- ใบ ยาเจริญอาหาร ยารักษาไข้ป่า ไข้มาลาเรีย ยาแก้อาการจุกเสียดแน่น ยาแก้ปวดท้อง แก้บิด ยาระบายท้อง ยาขับพยาธิ ยารักษาแผลเรื้อรัง ยาแก้แมลงพิษกัดต่อย
- เปลือกต้น ยาบำรุงหัวใจ ยาแก้นิ่วในทางเดินปัสสาวะ
- ลำต้น ยาแก้เบื่อเมา แก้พิษสุราเรื้อรัง ช่วยแก้ปัสสาวะดำหรือปัสสาวะเป็นเลือด ยาแก้อาการปวดเมื่อย
วิธีการใช้ :
- แก้พิษไข้เด็ก แก้กามโรค ยาแก้พิษงู แก้อาการปวดเมื่อย นำรากมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
- ยาเจริญอาหาร ยารักษาไข้ป่า ไข้มาลาเรีย ยาแก้อาการจุกเสียดแน่น ยาแก้ปวดท้อง แก้บิด ยาระบายท้อง ยาขับพยาธิ นำใบมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
- ยารักษาแผลเรื้อรัง ยาแก้แมลงพิษกัดต่อย นำใบมาตำให้ละเอียดผสมกับเนยทาแผลรักษาแผลเรื้อรัง ยาแก้แมลงพิษกัดต่อย
- ยาบำรุงหัวใจ ยาแก้นิ่วในทางเดินปัสสาวะ นำเปลือกต้นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
- ยาแก้เบื่อเมา แก้พิษสุราเรื้อรัง ช่วยแก้ปัสสาวะดำหรือปัสสาวะเป็นเลือด นำลำต้นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
- ยาแก้อาการปวดเมื่อย นำลำต้นติ่งตั่ง ผสมกับลำต้นเปล้าลมต้น ลำต้นเปล้าลมเครือ ลำต้นบอระเพ็ด ลำต้นรางแดง ลำต้นแหนเครือ และลำต้นหนาด นำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้อาการปวดเมื่อย
ถิ่นกำเนิด :
ติ่งตั่งเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย ประเทศจีนตอนใต้ และทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
.