ข้าวเย็นใต้

ชื่อสมุนไพร : ข้าวเย็นใต้
ชื่อเรียกอื่นๆ : ยาหัว (เลย,นครพนม), หัวยาข้าวเย็น (เพชรบูรณ์), ยาหัวข้อ (ภาคเหนือ), หัวยาจีนปักษ์ใต้ (ภาคใต้), ข้าวเย็นโคกขาว, เสียนฝูหลิง และ ควางเถียวป๋าเชี่ย (จีนกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Smilax glabra Wall.ex Roxb.
ชื่อสามัญ : Smilax
วงศ์ SMILACEAE
KYT1
ข้าวเย็นใต้เป็นพรรณไม้เลื้อยชนิดหนึ่งซึ่งจัดเป็นสมุนไพรที่มีรสหวานและไม่มีกลิ่นฉุนโดยจะออกฤทธิ์โดยตรงต่อตับและกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวข้าวเย็นใต้มีสรรพคุณอันโดดเด่นในด้านการรักษาโรคมะเร็งที่ได้ผลดีควบคู่กับหัวข้าวเย็นเหนือซึ่งจากการสำรวจการใช้สมุนไพรในตำรับยามะเร็งของหมอพื้นบ้านในเขตภาคใต้พบว่าหัวข้าวเย็นใต้และหัวข้าวเย็นเหนือเป็นตัวยาสำคัญเกือบทุกตำรับในการรักษาโรคมะเร็ง อีกทั้งยังเป็นตัวยาที่วัดคำประมงจังหวัดสกลนครนำมาใช้เป็นสุดยอดยาแก้มะเร็งที่ให้กับผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษาโรคมะเร็งทุกคน สอดคล้องกับงานวิจัยที่ได้มีการศึกษาพบว่า สารสกัดของหัวข้าวเย็นใต้นั้นเป็นพิษต่อเซลล์มะเร็งเกือบทุกชนิดและผลการศึกษาพบว่ามีฤทธิ์ต่อมะเร็งปอด และมะเร็งเต้านมได้ดีที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งตับ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย Staphylococus Aureus และ Bacillus Subtilis ที่ก่อให้เกิดหนองและต้านเชื้อกลากได้ดีรวมถึงสามารถออกฤทธิ์ยับยั้งเนื้องอกและต้านการอักเสบได้ดีอีกด้วย

 KYT3

ลักษณะสมุนไพร :
ข้าวเย็นใต้เป็นเถาไม้เลื้อยที่ลำต้นมีสีน้ำตาลเข้มโดยมีเหง้าหรือหัวอยู่ใต้ดินลักษณะกลมหรือแบนหรือเป็นก้อนและรูปร่างไม่แน่นอน ผิวไม่เรียบพบก้อนแข็งนูนขึ้นแยกเป็นแขนงสั้นๆ ความกว้างประมาณ 2-5 ซม. และความยาว 5-22 ซม. ผิวมีสีน้ำตาลเหลืองหรือสีเทาน้ำตาล ตามบริเวณผิวจะพบส่วนที่เป็นหลุมลึกและนูนขึ้นมีรากฝอยขึ้นบริเวณที่เป็นหลุม มักพบปมของรากฝอยที่งอกจากผิวเหง้า และมีรอยแยกแตกเป็นร่องๆ เนื้อมีสีขาวอมเหลืองใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียวออกเรียงสลับ ปลายใบบางแหลม โคนใบโค้งมน ขนาดกว้าง 2.5-5 ซม. และยาว 5-14 ซม. ผิวใบมันและมีเส้นมองเห็นได้ชัดเจนตามยาว 3 เส้น ส่วนหลังใบมีผงเหมือนแป้ง ก้านใบสั้น ดอกมีสีเหลืองอมเขียวออกเป็นช่อตามง่ามใบโดยในแต่ละช่อจะมีดอก 10-20 ดอกและมีขนาดเล็ก กลีบดอกมี 6 กลีบ กลีบดอกยาวประมาณ 2.5-3 มม. ก้านดอกยาวประมาณ 4-15 มม.ผลลักษณะเป็นรูปทรงกลมที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ประมาณ 6-7 มม. ผลอ่อนจะมีสีเขียวและเมื่อแก่จะกลายเป็นสีแดงดำ

KYT2

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ราก, หัว, ใบ, ดอก และ ผล
สรรพคุณทางยา :

  1. ราก แก้พุพอง แก้น้ำเหลืองเสีย แก้ปัสสาวะพิการ แก้พยาธิในท้อง
  2. หัวแก้มะเร็ง แก้เส้นพิการ น้ำเหลืองเสีย แก้กามโรค แก้แผลฝีเปื่อยพุพอง แก้อัมพาต แก้ประดง แก้คุดทะราด แก้ผื่นคัน แก้ดับพิษในกระดูก แก้ปัสสาวะ
  3. ใบ แก้ปากบวมอักเสบ
  4. ดอก แก้โรคผิวหนัง แก้คุดทะราด
  5. ผล แก้ลมริดสีดวง

 KYT4

วิธีการใช้ :

  1. แก้พุพอง แก้น้ำเหลืองเสีย แก้ปัสสาวะพิการ แก้พยาธิในท้อง นำรากมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  2. แก้มะเร็ง นำหัวบดให้ละเอียดผสมกับส้มโมงแล้วต้มจนแห้ง ผสมกับน้ำผึ้งรับประทานวันละ 1 เม็ด สามารถออกฤทธิ์ต้านมะเร็งเต้านม
  3. แก้เส้นพิการ น้ำเหลืองเสีย แก้กามโรค แก้แผลฝีเปื่อยพุพอง แก้อัมพาต แก้ประดง แก้คุดทะราด แก้ผื่นคัน แก้ดับพิษในกระดูก แก้ปัสสาวะ นำหัวมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  4. แก้ปากบวมอักเสบ นำใบมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  5. แก้โรคผิวหนัง แก้คุดทะราด นำดอกมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  6. แก้ลมริดสีดวง นำผลมารับประทานสดๆ

ถิ่นกำเนิด :
ข้าวเย็นใต้เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

.

©2024 ThaiHerbal.org | แหล่งเรียนรู้ข้อมูลสมุนไพร WordPress Video Theme by WPEnjoy