ข้าวสารป่า

ชื่อสมุนไพร : ข้าวสารป่า
ชื่อเรียกอื่นๆ : เข็มแพะ (เชียงใหม่), กระดูกงูเหลือม เข็มขาว (สุรินทร์) และ เข็มป่า
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pavetta tomentosa Roxb. ex Smith.
ชื่อสามัญ :
วงศ์ : RUBIACEAE

KSP1

ข้าวสารป่าเป็นพรรณไม้ที่จัดเป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดเล็ก ซึ่งพบว่าขึ้นทั่วทุกภาคของประเทศในป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ และป่าดิบเขา ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 100-700 เมตร ส่วนในต่างประเทศพบในอินเดีย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และในคาบสมุทรมลายู จะออกดอกและเป็นผลในช่วงระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนสิงหาคม โดยส่วนใหญ่นำมาใช้ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป ดอกมีลักษณะสวยงามและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ตำรายาพื้นบ้านอีสานจะใช้รากหรือลำต้นข้าวสารป่านำไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆ อีกหลายชนิด ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้มะเร็ง

 KSP2

ลักษณะสมุนไพร :
ข้าวสารป่าเป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดเล็ก เรือนยอดแผ่กว้างระเกะระกะหรือเป็นพุ่มกลมโปร่ง ลำต้นมีลักษณะตั้งตรง สูงได้ประมาณ 1-5 เมตร ตามกิ่งเกลี้ยงหรือมีขนสั้นนุ่ม ส่วนกิ่งอ่อนกลวงและมีขนขึ้นปกคลุมทั่วไป เปลือกต้นด้านนอกเป็นสีน้ำตาลเข้มปนดำ มีปุ่มปมตามลำต้น เป็นสะเก็ดแตกอ้าเล็กน้อย ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก ลักษณะของใบเป็นรูปรีแกมรูปขอบขนาน หรือเป็นรูปไข่แกมรูปขอบขนาน ปลายใบมนหรือแหลม โคนใบเป็นรูปลิ่ม ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 4-10 เซนติเมตร และยาวประมาณ 8-15 เซนติเมตร แผ่นใบบางคล้ายกระดาษ หลังใบเป็นสีเขียวเข้ม ส่วนท้องใบเป็นสีเขียวหม่น ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจุกแยกแขนง ดูคล้ายช่อเชิงหลั่น ออกดอกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่งหรือเหนือรอยแผลใบใกล้ปลายกิ่ง ช่อดอกยาวได้ถึง 15 เซนติเมตร ดอกมีกลิ่นหอมเป็นสีขาว ช่อดอกมีลักษณะกลมแบบหลวมๆ มีขนาดประมาณ 10-15 เซนติเมตร ดอกย่อยนั้นมีจำนวนมาก ก้านดอกย่อยยาวได้ประมาณ 5-10 มิลลิเมตร มีขน กลีบดอกเป็นสีขาว โคนเชื่อมติดกันเป็นรูปแตร หลอดแคบ ลักษณะคล้ายผลผนังชั้นในแข็ง กลม มีพู 2 พู มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4-6 มิลลิเมตร สีเขียวเป็นมัน เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีดำ มีชั้นกลีบเลี้ยงกลมๆ ด้านบน เนื้อผลบาง ภายในจะมีเมล็ด 2 เมล็ด เมล็ดเป็นสีน้ำตาล ด้านหนึ่งโค้ง อีกด้านหนึ่งแบน

 KSP3

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ใบ, ดอก, ผล, ราก และ เปลือกต้น
สรรพคุณทางยา :

  1. ใบ ยารักษาโรคในจมูก ยาแก้อาการไข้ บ้างว่าใช้ใบสดนำมาบดเป็นยาแก้ไข้ ยาฆ่าพยาธิ ยารักษาริดสีดวงทวาร ยาพอกฝี แก้หิด
  2. ผล ยาแก้ริดสีดวงงอกในจมูก
  3. ดอก ยาแก้ตาแดงตาแฉะ
  4. ราก ยาแก้มะเร็ง ยาแก้เสมหะในท้องและในทรวงอก ยาแก้บิด ยารักษาริดสีดวงทวาร ช่วยเพิ่มน้ำนมของสตรี ยาพอกฝี แก้หิด
  5. เปลือกต้น ฆ่าแมลงคาในหู

 KSP4

วิธีการใช้ :                                     

  1. ยารักษาโรคในจมูก ยาแก้อาการไข้ บ้างว่าใช้ใบสดนำมาบดเป็นยาแก้ไข้ ยาฆ่าพยาธิ ยารักษาริดสีดวงทวาร ยาพอกฝี แก้หิด นำใบนำมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  2. ยาแก้ริดสีดวงงอกในจมูก นำผลมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  3. ยาแก้ตาแดงตาแฉะ นำดอกมาต้มกับน้ำ นำมาหยอดตา
  4. ยาแก้มะเร็ง ยาแก้เสมหะในท้องและในทรวงอก ยาแก้บิด ยารักษาริดสีดวงทวาร ช่วยเพิ่มน้ำนมของสตรี ยาพอกฝี แก้หิด นำรากมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  5. ฆ่าแมลงคาในหู นำเปลือกต้นมาต้มกับน้ำ นำมาหยอดหู

ถิ่นกำเนิด :
ข้าวสารป่าเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และในคาบสมุทรมลายู

 

.

©2025 ThaiHerbal.org | แหล่งเรียนรู้ข้อมูลสมุนไพร WordPress Video Theme by WPEnjoy