บทความสมุนไพรสมุนไพรสำหรับใช้ดอกปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้เปลือกไม้ปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้ใบปรุงยา

กางขี้มอด


ชื่อสมุนไพร : กางขี้มอด
ชื่อเรียกอื่นๆ : แดง, คางแดง (แพร่), จันทน์ (ตาก), มะขามป่า (น่าน) และ ตุ๊ดเครน (ขมุ)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Albizia odoratissima (L.f.) Benth.
ชื่อสามัญ : Black Siris, Ceylon Rose Wood และ Crofton Weed
วงศ์ : LEGUMINOSAE



KKM3

กางขี้มอดเป็นพรรณไม้ยืนต้นชนิดหนึ่งที่มีเขตการกระจายพันธุ์ตั้งแต่อินเดียจนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในประเทศไทยพบขึ้นตามป่าดิบเขาและป่าผลัดใบ ที่ระดับความสูงถึง 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลประโยชน์ของกางขี้มอดนั้น ชาวไทใหญ่มักจะใช้ยอดอ่อนในพิธีสร้างบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล และ เนื้อไม้สามารถนำมาประโยชน์ใช้ในการสร้างบ้าน ก่อสร้างภายในที่ไม่รับน้ำหนักมาก ทำไม้อัด หรือนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ฯลฯ ดอกของกางขี้มอดจะมีรสหวานซึ่งใช้เป็นยาแก้ตาอักเสบโดยดอกมักออกในช่วงประมาณเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี นอกจากนี้ดอกยังใช้เป็นยาแก้ปวดบาดแผล แก้พิษฟกบวมได้อีกด้วย

 KKM2

ลักษณะสมุนไพร :
กางขี้มอดเป็นพรรณไม้ยืนต้น มีความสูงได้ประมาณ 10-30 เมตร กิ่งก้านลู่ลง ปลายยอดและกิ่งอ่อนมีรอยแผล มีรูอากาศตามลำต้นและกิ่ง เปลือกต้นเป็นสีเทาอมเหลืองหรือสีน้ำตาลอ่อน ค่อนข้างเรียบหรือแตกเป็นสะเก็ด เปลือกชั้นในเป็นสีแดง ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้นปลายคู่ ออกเรียงสลับแบบตรงข้าม ยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร มีใบย่อยประมาณ 10-25 คู่ แผ่นใบเรียบบาง ใบย่อยมีขนาดเล็ก ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปขอบขนานหรือรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ปลายใบมนหรือสอบ โคนใบเบี้ยว ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 0.6-1.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 1-3.5 เซนติเมตร ผิวใบทั้งสองด้านเกลี้ยง ดอกเป็นช่อแบบช่อกระจุกแน่นที่ปลายยอด ยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร ช่อดอกย่อยประกอบด้วยดอกย่อยหลายดอกรวมกันเป็นกลุ่ม ดอกมีขนาดเล็กเป็นสีขาวนวล กลีบเลี้ยงขนาดเล็ก โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด มีขน ปลายแยกออกเป็น 6 แฉก ส่วนกลีบดอกเป็นรูปกรวย ผิวมีขน ยาวประมาณ 6.5-9 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็นแฉก ดอกมีเกสรเพศผู้เป็นเส้นสีขาวจำนวนมาก ยาวเท่าหลอดกลีบดอก โคนก้านเกสรเพศผู้เชื่อมกันเป็นหลอด ผลมีลักษณะเป็นฝักแบนรูปขอบขนาน มีขนาดกว้างประมาณ 2-3.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 17-22 เซนติเมตร ผิวเรียบ ฝักอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม ฝักแห้งและแตกออกด้านข้าง ภายในมีเมล็ดประมาณ 8-12 เมล็ด เมล็ดมีลักษณะเป็นรูปรีกว้าง

 KKM1

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : เปลือกต้น, ใบ และ ดอก
สรรพคุณทางยา :

  1. เปลือกต้น ยาบำรุงธาตุ แก้อาการปวดฟัน ยาแก้ท้องร่วง แก้ลำไส้พิการ ยาแก้พยาธิ ยาแก้ตกโลหิต รักษาแผลโรคเรื้อน แผลเปื่อยเรื้อรังและทาฝี ยาแก้ฝี แก้บวม
  2. ใบ ยาแก้ไข้
  3. ดอก ยาบำรุงธาตุ ยาแก้ตาอักเสบ ยาแก้คุดทะราด ยาแก้ปวดบาดแผล แก้พิษฟกบวม

 KKM4

วิธีการใช้ :                                     

  1. ยาบำรุงธาตุ ยาแก้ท้องร่วง แก้ลำไส้พิการ ยาแก้พยาธิ ยาแก้ตกโลหิต นำเปลือกต้นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  2. แก้อาการปวดฟัน นำเปลือกต้นใช้ต้มเอาน้ำแล้วอมไว้ในปากแก้อาการปวดฟัน
  3. รักษาแผลโรคเรื้อน แผลเปื่อยเรื้อรังและทาฝี ยาแก้ฝี แก้บวม นำเปลือกต้นใช้ฝนรักษาแผลโรคเรื้อน แผลเปื่อยเรื้อรังและทาฝี ยาแก้ฝี แก้บวม
  4. ยาแก้ไข้ นำใบมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  5. ยาบำรุงธาตุ ยาแก้ตาอักเสบ ยาแก้คุดทะราด นำดอกมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  6. ยาแก้ปวดบาดแผล แก้พิษฟกบวม นำดอกมาตำพอกแผลแก้ปวดบาดแผล แก้พิษฟกบวม

ถิ่นกำเนิด :
กางขี้มอดเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในอินเดียจนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 





.