บทความสมุนไพรสมุนไพรสำหรับใช้รากปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้ลำต้นปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้เปลือกไม้ปรุงยา

พุดทุ่ง


ชื่อสมุนไพร : พุดทุ่ง
ชื่อเรียกอื่นๆ : พุดป่า (ลำปาง), น้ำนมเสือ (จันทบุรี), พุดนา (ราชบุรี), นมราชสีห์, นมเสือ (พิษณุโลก), โมกเกี้ย, โมกเตี้ย (สระบุรี), ถั่วหนู, พุดน้ำ, หัสคุณใหญ่ (สุราษฎร์ธานี), หัศคุณเทศ (พังงา), สรรพคุณ (สงขลา), มูกน้อย, มูกนั่ง, มูกนิ่ง, โมกน้อย, โมกนั่ง (ภาคเหนือ), พุดนา (ภาคกลาง), พุดทอง และ โมกเตี้ย (ภาคใต้)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Holarrhena curtisii King & Gamble
ชื่อสามัญ :
วงศ์ : APOCYNACEAE
PdT3
พุดทุ่งจัดเป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด พบขึ้นทั่วไปบริเวณพื้นที่ดินทราย ป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าโกงกาง ป่าโปร่ง ป่าผลัดใบ ที่โล่งแจ้งค่อนข้างชื้นแฉะ ริมถนน และตามทุ่งหญ้า ที่มีแสงแดดจัดและที่ร่มรำไร มีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศเวียดนาม ลาว กัมพูชา ไทย จนถึงมาเลเซีย ในประเทศไทยพบได้ทุกภาค ตั้งแต่ใกล้ระดับน้ำทะเลจนถึงประมาณ 400 เมตร คนสงขลาจะเรียกพันธุ์ไม้ชนิดนี้ว่า “สับครุน” โดยหมอยาในแถบนั้นจะใช้ยางผสมกับน้ำมะนาว แล้วนำมาป้ายหัวฝีที่บวมเต็มที่ เพื่อปิดหัวฝี ช่วยขับหนองและเลือดที่เน่าเสียออก



 PdT1

ลักษณะสมุนไพร :
พุดทุ่งเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นมีลักษณะตั้งตรงและมีความสูงได้ประมาณ 1-2 เมตร แตกกิ่งก้านต่ำติดพื้นดิน ลำต้นมีกิ่งกานไม่มาก กิ่งอ่อนเป็นเหลี่ยม มีขนสั้นนุ่ม เปลือกต้นเป็นสีน้ำตาลดำ เมื่อหักตามลำต้น กิ่งก้าน และใบจะมีน้ำยางสีขาวขุ่น  ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกัน ลักษณะของใบเป็นรูปไข่กลับหรือรูปรีแกมขอบขนาน ออกเรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก ปลายใบมนหรือเป็นติ่งหนาม โคนใบมน ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.5-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 7-12 เซนติเมตร แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง หลังใบด้านบนเป็นสีเขียวเข้ม ท้องใบด้านล่างมีสีขาวนวลกว่าด้านบน มีขนสีขาวสั่นนุ่มทั้งสองด้าน เส้นแขนงใบมีข้างละประมาณ 12-16 เส้น ก้านใบสั้น ยาวเพียง 2-4 เซนติเมตร หรือไม่มี ออกดอกเป็นช่อแยกแขนงตามซอกใบและปลายกิ่ง ยาวได้ถึง 12 เซนติเมตร มีขนสั้นนุ่ม ใบประดับมีขนาดเล็ก ลักษณะแคบยาว 2-5 มิลลิเมตร ดอกย่อยมีจำนวนมาก ก้านดอกย่อยยาวประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร กลีบดอกหนาเป็นสีขาว มีกลิ่นหอม กลีบดอกมี 5 กลีบ ลักษณะของกลีบดอกเป็นรูปไข่กลับถึงรูปรี ปลายกลม มีขนทั้งสองด้าน มีขนาดกว้างประมาณ 0.4-0.8 เซนติเมตร และยาวประมาณ 1.2-2 เซนติเมตร โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยาวประมาณ 0.8-1.5 เซนติเมตร ปลายแยกเป็นกลีบ 5 กลีบ ออกผลเป็นฝักคู่ ลักษณะกลมยาว รูปคล้ายดาบ ปลายฝักแหลมชี้ขึ้น ฝักมีขนาดกว้างประมาณ 1.5-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 7-30 เซนติเมตร พอฝักแห้งจะแตกออกตามตะเข็บเดียว ภายในมีเมล็ดสีน้ำตาล เมล็ดมีขนกระจุกสีขาวคล้ายเส้นไหมติดอยู่ที่ปลายของเมล็ด

 PdT5

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ราก, ทั้งต้น และ เปลือกต้น
สรรพคุณทางยา :

  1. ราก ยาขับลม ช่วยกระจายเลือดลม แก้อาเจียน ยาแก้บิด ถ่ายเป็นมูกเลือด แก้ท้องเสีย ยาแก้อาการท้องร่วง ยาขับพยาธิ ยาแก้ผิดสำแดง ยาขับเลือดและหนองให้ตก
  2. ทั้งต้น ยาขับลม ช่วยกระจายเลือดลม ยาขับพยาธิ ยาขับเลือดและหนองให้ตก
  3. เปลือกต้น ยาแก้อาการท้องร่วง

 PdT4

วิธีการใช้ :                                     

  1. ยาขับลม ช่วยกระจายเลือดลม ก้อาเจียน ยาแก้บิด ถ่ายเป็นมูกเลือด แก้ท้องเสีย ยาแก้อาการท้องร่วง ยาขับพยาธิ นำรากใช้ผสมกับอ้อยดำ และข้าวสารเจ้า นำมาแช่กับน้ำดื่มรับประทาน
  2. ยาแก้ผิดสำแดง ยาขับเลือดและหนองให้ตก นำรากพุดทุ่งใช้ผสมกับรากติ้วขน นำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ผิดสำแดง ยาขับเลือดและหนองให้ตก
  3. ยาขับลม ช่วยกระจายเลือดลม ยาขับพยาธิ ยาขับเลือดและหนองให้ตก นำทั้งต้นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  4. ยาแก้อาการท้องร่วง นำเปลือกต้นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน

 PdT2

ถิ่นกำเนิด :
พุดทุ่งเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดประเทศเวียดนาม ลาว กัมพูชา ไทย จนถึงมาเลเซีย

 





.