บทความสมุนไพรสมุนไพรสำหรับใช้ผลปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้เมล็ดปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้ใบปรุงยา

แตงกวา


ชื่อสมุนไพร : แตงกวา
ชื่อเรียกอื่นๆ : แตงขี้ไก่, แตงขี้ควาย, แตงช้าง, แตงร้าน (ภาคเหนือ), แตงปี, แตงยาง (แม่ฮ่องสอน), แตงเห็น, แตงอ้ม (เชียงใหม่), ตาเสาะ (เขมร) และ อึ่งกวย (จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cucumis sativus L.
ชื่อสามัญ : Cucumber
วงศ์ CUCURBITACEAE



 TGW1

แตงกวาเป็นพืชไม้เถาอยู่ในตระกูลเดียวกับฟักทอง แตงโม มะระ น้ำเต้า และบวบ เกษตรกรมักนิยมปลูกแตงกวาเป็นอาชีพเนื่องจากเป็นผักที่ปลูกง่าย ให้ผลผลิตเร็ว และการเก็บรักษากว่าง่ายกว่าผักชนิดอื่นๆ น้ำถือเป็นองค์ประกอบหลักในแตงกวาถึงร้อยละ 96 จึงมีคุณสมบัติแก้กระหายและเพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยการกำจัดของเสียตกค้างในร่างกาย อีกทั้งยังมีสารอาหารที่มีประโยชน์ ได้แก่ วิตามินซี กรดคาเฟอิก ซึ่งกรดทั้งสองนี้ป้องกันการสะสมน้ำเกินจำเป็นในร่างกาย เปลือกแตงกวามีกากใยอาหาร และแร่ธาตุจำเป็น เช่น ซิลิกา โพแทสเซียม โมลิบดีนัม แมงกานีส และแมกนีเซียม ดังนั้นจึงควรรับประทานทั้งเปลือกจะได้สารอาหารครบถ้วน นอกจากนี้ในแตงกวายังมีสาร cucurbitacin A, B, C และ D อีกด้วย ซึ่งพบว่า สาร cucurbitacin C นี้มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญของเนื้องอกชนิดมีพิษและมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ส่งผลทำให้แตงกวามีสรรพคุณที่ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมากได้เป็นอย่างดี

 TGW2

ลักษณะสมุนไพร :
แตงกวาเป็นพืชล้มลุกที่มีอายุสั้นเพียงแค่ปีเดียว ต้นมีขนหยาบสีขาว มีรากแก้วและรากแขนงจำนวนมากสามารถแผ่กว้างและหยั่งลึกได้มากถึง 1 เมตร ลำต้นเป็นเถาเลื้อยยาว 2-3 เมตร มีข้อยาว 10 ถึง 20 เซนติเมตร และหนวดบริเวณข้อช่วยเกาะยึดลำต้น ใบออกสลับกันตรงสามเหลี่ยมมนใหญ่ กว้าง 12 –18 เซนติเมตร มีแฉกใหญ่ 3 – 5 แฉก ตัวใบมีขนทั้ง 2 ด้าน ก้านใบยาว 5 –15 เซนติเมตร มีมุมใบ 3 ถึง 5 มุม ปลายใบแหลม ทั้งลำต้นและใบมีขนหยาบ ดอกแยกเป็นตัวผู้และตัวเมียอยู่บนต้นเดียวกัน กลีบดอกเป็นหลอดสีเหลืองส่วยปลายแยกเป็น 5 กลีบ ดอกตัวเมียมีลูกแตงกวาเล็กๆติดมาด้วย ส่วนดอกตัวผู้สังเกตที่ด้านหน้าดอกมีเกสรยื่นออกเล็กน้อยและไม่มีลูกเล็กๆติดที่โคนดอก ผลแตงกวามีลักษณะกลมยาวทรงกระบอก มีลายเขียวแก่มีพื้นสีเขียวอมขาวมีขนาดต่างๆกัน ความยาวตั้งแต่ 5-40 เซนติเมตร ไส้ภายในผลประกอบด้วยเมล็ดมากมาย เมล็ดลีแบนผิวเรียนสีขาว

TGW3

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ใบ, เถา, ผล และ เมล็ด
สรรพคุณทางยา :

  1. ใบ แก้ท้องเสีย แก้โรคบิด
  2. เถา ขับปัสสาวะ แก้บิด หนองใน โรคผิวหนังเป็นฝีเล็กๆ มีหนองและลดความดันโลหิต
  3. ผล ฝาดสมาน เสริมการทำงานของระบบประสาท ช่วยความจำ ลดอาการนอนไม่หลับ แก้กระหายน้ำ มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ขับปัสสาวะ ทำให้ผิวขาวใสและนุ่มนวล ช่วยบำรุงผมและเล็บป้องกันการเกิดโรคหัวใจช่วยให้ความชุ่มชื่น บำรุงผิว กระชับรูขุมขน ลดการเกิดสิวและยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้ออ่อนๆ ลบรอยแผลเป็น แก้ไข้ ไฟลวก ยาถ่ายพยาธิ แก้ท้องเสีย
  4. เมล็ด ช่วยเสริมสร้างการทำความของระบบประสาท เพิ่มความจำ ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ

 TGW5

วิธีการใช้ :

  1. แก้ท้องเสีย แก้โรคบิด นำใบมาต้มเอาน้ำ ดื่มรับประทาน
  2. ขับปัสสาวะ แก้บิด หนองใน โรคผิวหนังเป็นฝีเล็กๆ มีหนองและลดความดันโลหิต นำเถามาต้มเอาน้ำ ดื่มรับประทาน
  3. ฝาดสมาน เสริมการทำงานของระบบประสาท ช่วยความจำ ลดอาการนอนไม่หลับ แก้กระหายน้ำ มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ขับปัสสาวะ ทำให้ผิวขาวใสและนุ่มนวล ช่วยบำรุงผมและเล็บแก้ไข้ ไฟลวก ยาถ่ายพยาธิ แก้ท้องเสีย นำผลมารับประทานสดๆ หรือคั้นเอาน้ำ ดื่มรับประทาน
  4. ช่วยให้ความชุ่มชื่น บำรุงผิว กระชับรูขุมขน ลดการเกิดสิวและยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้ออ่อนๆ ลบรอยแผลเป็น นำผลสดหั่นเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำมาแปะทิ้งไว้เพื่อพอกหน้า หรือนำแตงกวามาปั่นแล้วคั้นเอาแต่น้ำมาใช้ทาหน้า
  5. ช่วยเสริมสร้างการทำความของระบบประสาท เพิ่มความจำ ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ นำเมล็ดมารับประทานสดๆ

 TGW4

ถิ่นกำเนิด :
แตงกวาเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอินเดีย

 





.