บทความสมุนไพรสมุนไพรสำหรับใช้ผลปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้เปลือกไม้ปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้เมล็ดปรุงยาสมุนไพรสำหรับใช้ใบปรุงยา

มะขามเทศ


ชื่อสมุนไพร : มะขามเทศ
ชื่อเรียกอื่นๆ : มะขาม
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pitsecellobium dulce (Roxb) Benth.
ชื่อสามัญ : Manila Tamarind
วงศ์ LEGUMINOSAE-MIMOSOIDEAE
MKTS2
มะขามเทศเป็นผลไม้ที่มีรูปทรงฝักโค้งเป็นวงกลม ให้รสชาติออกหวานมันผสมรสฝาดนิดๆ จัดเป็นพืชที่ปลูกง่ายมาก สามารถขึ้นได้ทั่วประเทศในที่ดินทั่วไปตามป่าดง ริมทาง ที่โล่งว่างเปล่าทั่วไป ขยายพันธุ์ได้ด้วยการเพาะเมล็ดหรือตอนกิ่ง ส่วนคุณประโยชน์ของมะขามเทศนั้นมีมากมายประกอบไปด้วย วิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์หลายชนิด อันได้แก่ วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก โปรตีน เส้นใย เป็นต้น ซึ่งถือว่ามะขามเทศนั้นเป็นสมุนไพรไทยที่คนโบราณนิยมนำมาใช้รักษาโรคปากนกกระจอกเทศนั่นเอง และยังช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณในการต่อต้านเซลล์มะเร็ง เนื่องจากมีสารเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และวิตามินซีสูงซึ่งเป็นกลุ่มของสารอาหารที่ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่ก่อให้ร่างกายเกิดการอักเสบ ทำลายเนื้อเยื่อ เกิดต้อกระจกในผู้สูงอายุ โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด



MKTS5

ลักษณะสมุนไพร :
มะขามเทศเป็นไม้ยืนต้นที่มีลำต้นค่อนข้างสูงมาก โดยมีความสูงประมาณ 15 เมตร เปลือกลำต้นมีผิวเรียบและมีหนามรอบลำต้นในตำแหน่งรอยก้านใบ (leaf scar)ลำต้นมีสีเทาแกมขาวหรือเทาดำ ใบเป็นใบเรียงสลับซึ่งใบประกอบแบบขนนก 2 ชั้น ใบย่อยรูปไข่กลับหรือรูปรี มีความกว้าง 0.5-2.5 เซนติเมตร ยาว 1.5-4.5 เซนติเมตร โคนใบเบี้ยว ปลายใบมีความโค้งมน ขอบใบเรียบ ขอบใบ 2 ข้างโค้งไม่เท่ากัน ผิวใบเรียบถึงมีขนเล็กน้อย ก้านใบอ่อนมีขนปกคลุม โคนก้านใบมีหูใบคล้ายหนาม ดอกเป็นช่อเกิดที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ สีเขียวแกมขาว ติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 แฉก ปลายกลีบมน เกสรเพศผู้จำนวนมาก ก้านชูอับเรณูเชื่อม ติดกันเป็นหลอด เกสรเพศเมีย 1 อัน ผลเป็นฝักค่อนข้างแบนถึงทรงกระบอกมีรอยคอดตามแนวสัน และเปลือกนูนตามจำนวนเมล็ด ผลเป็นฝักโค้งเป็นปล้องๆ ฝักอ่อนสีเขียว เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีชมพูหรือแดง รสหวานหรือหวานอมฝาด ถ้าทิ้งไว้นาน เนื้อจะนุ่ม รสหวานจัดขึ้น แต่ถ้านานเกินไปจะมีกลิ่นเหล้าออกมา เมล็ดสีดำ มีปล้องละ 1 เมล็ด

 MKTS1

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : เปลือกต้น, ใบ, ผล และ เมล็ดแก่
สรรพคุณทางยา :

  1. เปลือกต้น ป้องกันโรคฟันผุ
  2. ใบ ยาระบายรักษาบาดแผล แก้พิษแมลงป่อง
  3. ผล ต้านมะเร็ง ช่วยในการขับถ่าย และช่วยลดปัญหาของอาการท้องผูกช่วยในการบำรุงประสาทและสมองบำรุงผิวพรรณ เล็บ และเส้นผม ลดระดับคอเลสเตอรอลเสริมสร้างกระดูกและฟันช่วยในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ มีส่วนช่วยในการป้องกันอาการอ่อนเพลียรักษาโรคโลหิตจาง แก้ไอ ขับเสมหะในลำไส้ สมานแผลห้ามเลือด รักษาโรคปากเปื่อยหรือโรคปากนกกระจอกเทศ บรรเทาอาการปวดฟัน
  4. เมล็ดแก่ ยาถ่ายพยาธิไส้เดือนในท้องเด็ก

 MKTS4

วิธีการใช้ :

  1. ป้องกันโรคฟันผุ นำเปลือกต้นมาต้มกับน้ำ บ้วนปาก
  2. ยาระบายรักษาบาดแผล แก้พิษแมลงป่อง นำใบตำพอกรักษาบาดแผล
  3. ต้านมะเร็ง ช่วยในการขับถ่าย และช่วยลดปัญหาของอาการท้องผูก ช่วยในการบำรุงประสาทและสมอง บำรุงผิวพรรณ เล็บ และเส้นผม ลดระดับคอเลสเตอรอล เสริมสร้างกระดูกและฟัน ช่วยในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ มีส่วนช่วยในการป้องกันอาการอ่อนเพลีย รักษาโรคโลหิตจาง แก้ไอ ขับเสมหะในลำไส้ สมานแผลห้ามเลือด รักษาโรคปากเปื่อยหรือโรคปากนกกระจอกเทศ บรรเทาอาการปวดฟัน นำผลมาประกอบอาหารรับประทาน
  4. ยาถ่ายพยาธิไส้เดือนในท้องเด็ก นำเมล็ดแก่นำมาคั่วแล้วกะเทาะเปลือก (ประมาณ 30 เม็ด) แล้วนำไปแช่น้ำเกลืออ่อน แล้วนำมารับประทานเป็นยาถ่ายพยาธิไส้เดือนในท้องเด็ก

ถิ่นกำเนิด :
มะขามเทศเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดเม็กซิโก อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ตอนบน อเมริกาเหนือ ฟิลิปปินส์ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 





.